รีวิวที่แล้ว เด็กจิ๋วพาไปเที่ยวงาน Singha Park International Balloon Fiesta มาแล้วใช่มั้ยคะ
รีวิวนี้จะพาไปเที่ยวไร่บุญรอด หรือสิงห์ปาร์คกันบ้าง ซึ่งเป็นสถานที่ที่จัดงานบอลลูนนั่นเองค่ะ
เราเพิ่งรู้ว่าที่สิงห์ปาร์คมีอะไรๆให้เที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นส่วนของสวนสัตว์ แปลงดอกไม้ ไร่ชา เก็บสตรอเบอรี่ และเล่นซิปไลน์
แต่ละกิจกรรมที่มี เป็นที่ถูกใจเด็กมากๆ พร้อมแล้วตามเด็กจิ๋วไปเที่ยวไร่บุญรอดกันเลยค่ะ

คลิ๊กชมรีวิวงานบอลลูน International Balloon Fiesta 2016

วันที่เราไปถึงเชียงราย เป็นวันที่อากาศอุ่นขึ้นพอดีค่ะ
ก่อนหน้านี้เป็นช่วงอากาศหนาวเย็นมากผิดปกติของประเทศไทย
รับรู้มาว่าก่อนหน้าเราจะไป เชียงรายหนาวมากๆ วันที่เราไป ตอนเช้ายังหลงเหลืออากาศเย็นๆอยู่นิดๆ
พอพระอาทิตย์มาเต็มๆเท่านั้นแหละค่ะ ถึงกับไหม้กันเลยทีเดียว ร้อนสุดๆเลยค่ะ
มาถึงสิงห์ปาร์คสายๆ ฟ้าใสแดดแจ๋เลย สิงห์ทองสัญลักษณ์ของที่นี่ ยืนต้อนรับอยู่หน้าไร่เลยค่ะ

ได้ใส่เสื้อกันหนาวถ่ายรูปรูปนี้รูปเดียว หลังจากนั้นเก็บถาวรไปเลยค่ะ

เรามาแวะกันที่ร้านขายของที่ระลึกตรงด้านหน้ากันก่อน
น้องคนขายบอกว่าของที่ขายในร้านนี้จะเป็นผลิตผลจากในไร่ทั้งหมด
ไม่ว่าจะเป็นสตรอเบอรี่ เห็ด ข้าว ลูกหม่อน ฯลฯ
(เห็นสตรอเบอรี่แล้วอยากซื้อมากๆค่ะ แต่อดใจไว้ เดี๋ยวเราจะเข้าไปเก็บสตรอเบอรี่ที่แปลงกันอยู่แล้ว)

เราจอดรถไว้ที่ด้านหน้า แถวๆร้านขายของ แล้วก็ไปนั่งรถของทางไร่ ไปฟาร์มทัวร์กันค่ะ
เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ในไร่ ห้ามเอารถส่วนตัวเข้าไป เลยต้องนั่งรถแบบนี้ ค่าบริการคนละ 50 บาทค่ะ

จุดแรกที่แวะคือสระหงส์ คือมีหงส์เยอะมากๆ ราวๆ 50 ตัวได้ค่ะ
ปกติเราเห็นหงส์ลอยไปมาตามสระน้ำต่างๆ ไม่กี่คู่ แต่ที่นี่มีเป็นฝูงเลยค่ะ

ต่อจากดูหงส์ ก็มาแวะที่แปลงสตรอเบอรี่ ที่นี่เป็นพันธุ์พระราชทาน 80 เหมือนที่อ่างขาง
สตรอเบอรี่ที่นี่จะออกเยอะช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งก็เป็นช่วงที่เราไปพอดี
เข้าไปแล้วตื่นเต้นมากค่ะ สตรอเบอรี่ห้อยแดงเต็มไปหมดเลย
เราไม่เคยเก็บสตรอเบอรี่กันมาก่อน ครั้งนี้ครั้งแรกเลยค่ะ

เค้าแจกกรรไกร 1 อันกับกล่องพลาสติก 1 กล่อง ให้เอาเข้าไปเลือกไปตัดเองตามใจชอบ
แต่ห้ามกินระหว่างตัดนะคะ ต้องเอาออกมาชั่งน้ำหนักด้านนอกก่อน ราคาขีดละ 50 บาทค่ะ
แม่กับเด็กจิ๋วช่วยกันเลือกลูกโตๆ แดงๆ ตัดแป๊บเดียวก็เต็มกล่องแล้วค่ะ

ตัดเสร็จเราเอาออกมาชั่งได้ 5 ขีดค่ะ สองร้อยห้าสิบบาท ราคาแพงเหมือนกัน แต่ขอบอกว่าอร่อยมากที่สุด
คือเนื่องจากเราเลือกลูกที่สุกเต็มที่ ฉ่ำๆ สดๆ ตัดปุ๊บล้างกินกันเลย มันฟินมากๆค่ะ อร่อยจริงๆ
ที่มีขายในร้านราคาจะถูกกว่านี้ แต่ไม่อร่อยเท่าค่ะ เราว่าเป็นเพราะเค้าจะตัดลูกที่เกือบๆสุก ยังไม่แดงจัด
เพราะกว่าคนจะมาซื้อเอาไปกิน มันก็จะแดงพอดี คือมันก็อร่อย แต่ไม่เท่าแบบที่เราตัดมาเองเลยค่ะ

นอกจากสตรอเบอรี่แล้ว ตรงนี้มีมะเขือเทศด้วย ลูกเต่งๆ สีสวยๆดูน่ากินมาก
แต่บ้านเราไม่มีใครชอบมะเขือเทศซักคน เลยไม่ได้ชิมนะคะว่าอร่อยแค่ไหน

เราผ่านทุ่งคอสมอสสีหวานๆ แวะลงถ่ายรูปนิดนึงค่ะ
ที่นี่มีทุ่งคอสมอสหลายจุดค่ะ ที่เราเคยเห็นในรูปมันดูแน่นและเยอะกว่านี้
น้องเจ้าหน้าที่บอกว่าปีนี้คอสมอสไม่ค่อยงาม เจออากาศหนาวจัดผิดปกติเข้าไป ต้นไม้ช็อคไม่โตต่อเลยค่ะ

จุดแวะถัดไปที่เด็กชอบมากๆอีกจุดคือสวนสัตว์ค่ะ
ตรงนี้มีให้อาหารสัตว์ด้วย ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เด็กจิ๋วชอบมากๆ มีวัววาตูซี่ที่เขายาวมาก ยีราฟ และม้าลาย

จบจากให้อาหารสัตว์ก็เที่ยงพอดี
เราทานกลางวันกันที่ร้านอาหารภูภิรมย์ ตั้งอยู่บนเนินกลางไร่ชาเลยค่ะ วิวงามมากๆ

เมนูวันนี้ก็เป็นอาหารแนะนำของที่นี่ทั้งนั้น
ไม่ว่าจะเป็นไก่ย่างภูภิรมย์ ผัดหมี่ ใบชาทอดกรอบ
(อร่อยมากๆเพราะตัวแป้งใส่ซาวครีมด้วย) และขนมเบื้องกุ้ง อร่อยทุกๆอย่างจริงๆค่ะ

อิ่มข้าวแล้ว ล้างปากกันด้วยสตรอเบอรี่ที่เก็บมา หม่ำกันเกลี้ยงกระป๋องเลย อร่อยจริงๆค่ะ

ไร่ชารอบๆร้านอาหารภูภิรมย์สวยมากๆค่ะ
ถึงแม้แดดจะแรงแต่เราไม่หวั่น ไปถ่ายรูปไปยืนชมวิวกันพักใหญ่เลย
ตรงนี้มีจุดขายโบว์ให้เขียนชื่อแล้วเอามาติดที่ราว อารมณ์ประมาณเอากุญแจมาอธิษฐานแล้วคล้องค่ะ
แต่อันนี้เป็นโบว์ ซึ่งรายได้เค้าเอาไปบริจาคค่ะ

กิจกรรมช่วงบ่าย เป็นอีกอันที่เด็กจิ๋วเฝ้ารอมาก อยากเล่นมากๆ นั่นก็คือซิปไลน์ค่ะ
เราต้องนั่งรถเข้าไปตรงส่วนที่เรียกว่าบ้านแดง (ซึ่งก็เป็นตรงที่เค้าจัดงานบอลลูน)
พอเข้าไปก็จะเห็นบ้านแดงมาแต่ไกล และเห็นหอซิปไลน์สูงเท่าตึกแปดชั้นค่ะ

แต่เราจะไม่เล่นอันนี้นะคะ เราจะเข้าไปเล่นกันที่ฐานไร่ชา
เราแต่งตัวเตรียมพร้อมกันที่ตรงหอซิปไลน์ เสร็จแล้วนั่งรถของทางไร่เข้าไปบริเวณไร่ชาโครงการ 2
(โครงการ 1 คือตรงรอบๆร้านอาหารภูภิรมย์) ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปและไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไปได้
นอกจากจะไปเล่นซิปไลน์ค่ะ

นั่งรถมาแป๊บเดียวก็มาถึงแล้วค่ะ เดินขึ้นบันไดไปจุดปล่อย เด็กอยากเล่นมาก ร่าเริงสุด ต่างกับแม่ที่ขาสั่นเล็กน้อย

เราปล่อยพ่อกับลูกไปกันก่อน แล้วให้แม่เก็บภาพให้
แต่ตอนที่แม่จะลง มีแอบเปลี่ยนใจ บอกน้องเจ้าหน้าที่ว่าขอลง ไม่เล่นแล้ว
แต่น้องไม่ยอมค่ะ ถามว่าพี่เป็นโรคหัวใจมั้ย พอบอกไม่เป็น น้องบอกสบายมากๆ ให้ลองดู
อารมณ์ว่าวัดใจแค่ตอนแรกตอนจะลง หลังจากนั้นก็ชิลล์ๆค่ะ สนุกมากจริงๆ ถ้าไม่ได้เล่นคงเสียดายมากค่ะ

จริงๆเด็กจิ๋วขอลงคนเดียวด้วย แต่ว่าไม่ได้เพราะน้ำหนักน้อยเกินไป
ถ้าตัวเบาๆ จะวิ่งไปไม่ถึงจุดหมาย อาจค้างอยู่ตรงกลาง เพราะไม่มีแรงส่งพอค่ะ

ตรงนี้มี 4 ฐานค่ะ ข้ามผ่านไร่ชา วิวสวยงามสุดลูกหูลูกตา บางช่วงก็ข้ามน้ำ
เด็กจิ๋วติดใจซิปไลน์ที่นี่มากๆ บอกว่าสนุกที่สุดค่ะ ถ้ามีโอกาสได้กลับไปอีก ก็จะไปเล่นอีกค่ะ

เล่นเสร็จกลับออกมาที่บ้านแดง ขับผ่านไร่ชาโครงการ 1 ก็แวะลงไปถ่ายรูปกันอีกหน่อยค่ะ

ต้นนี้ชื่อว่าเหลืองเชียงราย ช่วงเราไปเพิ่งเริ่มๆออกดอก
แต่พอเรากลับมา ได้เห็นรูปใน facebook ของสิงห์ปาร์ค
ต้นนี้ออกดอกเหลืองอร่ามตลอดแนวเลย สวยมากๆค่ะ

จบจากกิจกรรมทัวร์ฟาร์มแล้ว เราก็มาเตรียมพร้อมดูบอลลูนกันที่บริเวณบ้านแดง
บรรยากาศยามเย็นแถวๆนี้งดงามมากค่ะ
เราดูบอลลูน กินพิซซ่า เดินเล่นทำกิจกรรม ดูคอนเสิร์ต ได้ลองขึ้นบอลลูน
แถมเด็กได้เล่นซิปไลน์อันที่สูงเท่าตึก 8 ชั้นด้วย นับว่าเป็นเด็กใจเด็ดมากค่ะ
(แม่ขึ้นไปยืนดูก็เข่าอ่อนแล้ว อันนี้ไม่สู้จริงๆค่ะ)

ทริปนี้เด็กสนุกและมีความสุขมากจริงๆค่ะ ขอบคุณสิงห์ปาร์คที่ชวนเด็กจิ๋วไปเที่ยวในครั้งนี้
ได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในโลกกว้าง ให้เด็ก 6 ขวบแบบเด็กจิ๋วได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆอีกเยอะมากๆค่ะ
แล้วเราจะกลับไปใหม่เมื่อมีโอกาสนะคะ สิงห์ปาร์คเชียงราย