ช่วงปลายๆพฤศจิกายนปีที่แล้ว บ้านเราไปเที่ยวชมใบไม้แดงที่ญี่ปุ่นมาค่ะ
ตั้งใจมากๆว่าจะเขียนรีวิวที่นี่ช่วงเดือน 9 เดือน 10 เพื่อเป็นแนวทางในการเดินทางของคนอื่นๆที่กำลังจะไปในช่วงนี้เหมือนกับที่เราไปมา
เพื่อนๆที่เข้ามาอ่านจะได้มีเวลาเตรียมแผน เตรียมตัวแต่เนิ่นๆ
แต่จนแล้วจนรอด ก็เพิ่งได้ฤกษ์ลงมือรีวิวทริปนี้จริงจังเอาตอนนี้ ปาเข้าไปต้นเดือน 11 แล้ว
สำหรับรีวิวนี้จะรีวิวเฉพาะการเดินทางชมใบไม้แดงที่เกียวโตนะคะ
เรามีเวลาที่เกียวโต 2 วันกว่าๆ เลือกไปเฉพาะวัดที่กะว่าจะเจอใบไม้แดงเต็มๆ
ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ครบหรอกค่ะ มีอีกหลายวัดที่ใบไม้แดงสวยจัดๆ แต่ไม่ได้ไป เพราะเวลาไม่อำนวยค่ะ
เวลา 2 วันกับอีก 1 เย็น เราจัดตารางการชมใบไม้แดงตามนี้ค่ะ
Day 1: วัดน้ำใส (Kiyomizudera) ตอนเย็นๆ ไปชมเค้าเปิดไฟกลางคืน
Day 2: วัด Eikando -> วัด Nanzenji -> วัด Ginkakuji -> วัด Enkoji
Day 3: วัด Tofukuji -> Arashiyama -> วัด Jojakkaji
พร้อมแล้วไปลุยเกียวโต ชมใบไม้แดงกันให้ตาลายเลยค่ะ
Kyoto Day 1 (20 November 2014) : Kiyomizudera Illumination
เราไปถึงเกียวโตประมาณ 4 โมงกว่าๆ
เอากระเป๋าเก็บใน Locker ที่สถานี Kyoto ก่อนแล้วก็รีบนั่งรถเมล์สาย 206 ไปวัดน้ำใส
กะว่าสักไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็น่าจะถึง ยังพอมีเวลาเดินเล่นช้อปปิ้ง ชิมขนมที่ถนนทางเดินขึ้นวัดได้
แต่ไหงนั่งรถเมล์มาเกินครึ่งชั่วโมงแล้ว ก็ยังไม่ถึงซักที
จนเราทนไม่ไหว ถามคุณป้าที่นั่งข้างๆว่ารถเมล์คันนี้ไปวัดน้ำใสรึเปล่า
คำตอบของคุณป้าทำเอาเราอึ้ง…
คือผ่านค่ะ สาย 206 ถูกแล้ว แต่เรานั่งผิดฝั่ง!!
สายนี้วิ่งเป็นวงกลมนะคะ วนซ้าย กับวนขวา เราดันไปนั่งข้างที่วนอีกฝั่ง
เลยได้นั่งรถเมล์ไปวัดน้ำใสในเวลาเกือบสองชั่วโมง แทนที่จะเป็น 15 นาทีค่ะ
จริงๆเรานั่งรถเมล์ได้ 2 สายนะคะ คือสาย 100 กับสาย 206 ขอแนะนำว่าใครจะไปนั่งสาย 100 ดีกว่าค่ะจะได้ไม่งง แต่ถ้าจะนั่ง 206 ก็ต้องเช็คดีๆค่ะว่าเป็นแบบวนด้านไหน อย่าเสร่อเหมือนเรานะคะ
เอาล่ะ..ในที่สุดก็มาถึงแล้วค่ะ เกือบจะหกโมงซึ่งเป็นเวลาเปิดให้เข้าชมวัดรอบกลางคืนพอดี
รีบจ้ำกันขึ้นไป ไม่ได้ช้อปใดใดทั้งนั้นเลยค่ะ
แถมพอขึ้นเขาไปได้ไม่เท่าไหร่ ก็พบว่ามีคิวรอซื้อตั๋วเข้าวัดยาวลงมาด้านล่างนี่เลย
คนเยอะมากจริงๆค่ะ เราก็รีบเข้าแถว แล้วไหลๆตามคนขึ้นไปด้านบนค่ะ
จริงๆเรารู้มาก่อนแล้วว่า Light Up ที่นี่คนเยอะ เราก็วางแผนมาที่นี่เย็นวันธรรมดา กะว่าคงจะคนไม่เยอะมาก
ที่ไหนได้…เยอะแบบมหาศาลอ่ะค่ะ ไม่รู้ว่าวันหยุดคนจะเยอะกว่านี้มั้ย
แล้วก็นึกไม่ออกว่าจะเยอะกว่านี้ได้ไง นี่ก็มากกกกกจริงๆแล้วค่ะ
ไหลๆตามผู้คนไปซื้อตั๋วได้แล้ว ก็ไหลๆเข้าไปถ่ายตรงจุดที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่กัน
(ค่าบัตรเข้าชมช่วงกลางคืนราคาคนละ 400 เยนค่ะ เด็กจิ๋วเข้าฟรี)
โอ้โห..ตรงนี้คนแน่นมากจริงๆ ใช้ไหลๆเอา ไหลแบบ one way ด้วยนะคะ กล้องต้องพร้อมเลย
พอไหลผ่านจุดมุมมหาชน ต้องพร้อมถ่ายลั่นชัตเตอร์เลย
ขาตั้งกล้องหมดสิทธิ์กางนะคะ มันแน่นมากๆ เจ้าหน้าที่ห้ามกางค่ะ แต่ถึงไม่ห้ามก็กางไม่ได้ค่ะ
เริ่มเห็นแดงๆแล้ว เราเก็บภาพไปเรื่อยๆค่ะ ไหลไปถ่ายไป อากาศหนาวๆแบบนี้ อบอุ่นมากค่ะ
เดินไหลมาตามทางแป๊บนึง เริ่มเห็นแล้วค่ะ มุมมหาชน
จุดนี้ได้มาไม่กี่รูปค่ะ อย่างที่บอกว่าคนแน่นมากจริงๆ
หยุดถ่ายนานไม่ได้ค่ะ คนไหลทะลักดันๆเข้ามาตลอดเวลา
เดินลงมาด้านล่างค่อยโล่งหน่อยค่ะ ไม่ค่อยเบียดแล้ว คนจะแน่นตรงมุมมหาชน และตรงน้ำสามสายค่ะ
นอกนั้นก็โอเค เพราะบริเวณวัดก็กว้างขวางอยู่ค่ะ
ออกจากวัดมา ก็ขอแวะช้อปปิ้งขนม ของฝากกันหน่อยนะคะ
ถนนทางขึ้นวัดถึงจะเป็นเนิน แต่เดินไม่เหนื่อยเลยค่ะ เพราะมีร้านขายของตลอดแนวสองข้างทาง
ที่พลาดไม่ได้คือโมจิแบบสามเหลี่ยมไส้ต่างๆ อร่อยมากๆค่ะ ซื้อกินเองด้วย ซื้อเป็นของฝากด้วย หอบมาเพียบเลยค่ะ
พอช้อปเสร็จลงมารอรถเมล์ ก็ช็อคอีกรอบค่ะ… คิวรอรถเมล์ยาวมากๆ
กะเอาว่า 50 คนเป็นอย่างต่ำ เห็นแล้วท้อมาก รถคงจะแน่นแบบสุดๆ แล้วเรามีรถเข็นลูกด้วย ตายแน่ๆค่ะ
แต่เหมือนแม่พระมาโปรด สาวไต้หวันที่รอรถอยู่หน้าเราเค้ามาชวนไปแท็กซี่ หารกัน
เรารีบตกลงทันทีเลยค่ะ ในที่สุดก็กลับมาถึงสถานีเกียวโตแบบสบายๆ ^^
ที่พักของเราสองคืนที่นี่อยู่ใกล้สถานีเกียวโตมากๆค่ะ เป็นอพาร์ทเม้นท์ที่เราจองผ่าน Airbnb
เจ้าของห้องน่ารักมาก เดินมารับเราที่สถานีเลย กะว่าคราวหน้าถ้าไปจะไปนอนที่นี่อีก
แต่เหมือนว่าเค้าเลิกทำแล้ว เพราะเราเข้า Airbnb ไปก็ไม่เจอห้องของพี่เค้าแล้ว
หน้าตาห้องประมาณนี้ มีครัว มีเครื่องซักผ้าให้ด้วย แต่ไม่ได้ใช้เลยค่ะ
คลิปเด็กจิ๋วพาเที่ยววัดน้ำใสค่ะ
Kyoto Day 2 (21 November 2014) : Eikando Temple
เราออกจากที่พักแต่เช้า ไปซื้อตั๋วรถเมล์แบบ One-day Pass ราคา 500 เยนที่ตู้หน้าสถานีเกียวโต
(ดูรายละเอียดได้ที่ http://www2.city.kyoto.lg.jp/koho/eng/access/transport.html)
แล้วรีบไปรอรถเมล์สาย 5 เพื่อไปวัด Eikando กะว่าให้ไปถึงก่อนวัดเปิดค่ะ เดาว่าคนจะเยอะแน่นอน
นั่งมาไม่ไกลนะคะ ซัก 30 นาทีได้ ลงที่ป้ายชื่อว่า Nanzenji,Eikando-michi
ดูรายละเอียดสายรถเมล์และผังการเดินรถได้ที่นี่ค่ะ http://inst.uno.edu/japan/docs/bus_navi_en.pdf
(ตอนซื้อตั๋ววัน จะได้แผนที่แบบกระดาษมาด้วยค่ะ)
ลงรถแล้วก็เดินตามฝูงชนไปค่ะ เพราะทุกคนมุ่งหน้าวัดนี้แน่นอนค่ะ
เด็กยังไม่ยอมตื่นนะคะ เข็นไปทั้งยังงี้เลยค่ะ
เดินมา 5 นาทีก็มาถึงหน้าวัดค่ะ
โอ้โห..แค่หน้าวัดก็เริ่มเห็นสีสวยๆแล้ว ตื่นเต้นมากๆ
เรามาก่อนเวลาวัดเปิดประมาณครึ่งชั่วโมง คิวรอซื้อตั๋วเข้าวัดไม่ยาวมากนัก (เทียบกับวัดน้ำใสเมื่อคืนไม่ได้เลย)
ระหว่างแม่รอต่อคิว ปะป๊าก็เดินถ่ายรูปรอบๆ รั้ววัด แค่เริ่มก็งามแล้วค่ะ
หลากสีสัน เขียว ส้ม แดง สดใสมากๆค่ะ
ซื้อตั๋วเข้าวัดคนละ 1000 เยน เด็กจิ๋ว 4 ขวบยังไม่ต้องเสียค่าเข้าเช่นเคย
ค่าเข้าที่นี่แพงกว่าวัดอื่นๆมากนะคะ วัดอื่นๆจะอยู่ระหว่าง 300-400 เยน แต่ที่นี่ 1000 เยน
เพราะว่าของเค้าสวยติดอันดับต้นๆในเกียวโตค่ะ ราคาเลยสูงหน่อย พอเค้าไปแล้วจะพบว่าคุ้มค่ามากๆค่ะ
คลิปเด็กจิ๋วพาเที่ยววัด Eikando ตอนเดินทางไปวัด+เข้าคิวซื้อตั๋วค่ะ
พอประตูวัดเปิด เราเห็นคนพุ่งตัวกันไปเบียดเสียดตรงระเบียงอันนึง
เราก็ไม่รู้ว่าดูอะไรกัน แต่คงจะเด็ดแน่ๆ เลยส่งปะป๊าเป็นตัวแทนไปเบียดบ้าง ได้วิวนี้มาค่ะ
ก็สวยจริงๆ แดงฉานเลย
รูปของที่วัด Eikando นี่จะเยอะหน่อยนะคะ มันสวยไปหมดทุกมุม แดงละลานตามากๆ
ตอนเลือกรูปมาทำรีวิวนี่คืองานหนักมาก เลือกไม่ถูกเลยค่ะ
กว่าเราจะเดินผ่านแต่ละจุดก็ใช้เวลานานมากค่ะ เพราะถ่ายรูปกันตลอดๆ มุมนึงหลายรูป แล้วมุมสวยมีรอบทิศค่ะ
เราเผื่อเวลาอยู่ที่นี่ 2 ชั่วโมง สุดท้ายอยู่ที่นี่ 2 ชั่วโมงครึ่งค่ะ
เป็นไงคะ เริ่มตาลายกับใบไม้แดงรึยังคะ
นี่เพิ่งเริ่มต้นนะคะ กระทู้นี้ยังแดงฉานกันอีกยาวๆเลยคะ
เดินลงมาดูตรงบึงน้ำกันบ้าง สวยอีกแล้วค่ะ
บริเวณวัดจะมีจัดสถานที่ให้นั่งชมใบไม้แดงไป จิบชาญี่ปุ่นและชิมขนมญี่ปุ่นด้วย
ราคาอยู่ที่ชุดละเท่าไหร่เราก็ไม่ได้ถามค่ะ แต่เราก็เห็นคนญี่ปุ่นไปนั่งชิลล์จิบชาชมสวนกันเยอะเลยค่ะ
จริงๆถ้าคนน้อยกว่านี้ บรรยากาศคงสุดยอดจริงๆค่ะ จิบชาเขียวชมใบไม้แดง
นี่คนเยอะ พลุกพล่านไปหน่อยค่ะ เลยไม่ค่อยจะสงบเท่าไหร่
วัด Eikando นี่จะมี Illumination ตอนกลางคืนเหมือนกันนะคะ และคาดว่าคนก็คงเยอะมากๆ
เราไม่ได้มาดูค่ะ แค่ดูตอนกลางวันก็อิ่มเอมมากแล้ว (ไม่อยากเบียดเสียดเหมือนที่วัดน้ำใสอีกแล้ว ขอบายค่ะ)
เรายังคงวนเวียนถ่ายรูปกันรอบๆสระน้ำนะคะ วิวสวยๆ ไม่อยากจากไปไหนเลยค่ะ
พื้นมอสสีเขียวๆ มีใบไม้แดงร่วงทับนี่ใช่เลยค่ะ แบบนี้เลยอย่างที่อยากมาเห็น
เราพูดกันว่า ป่ะ..ไปวัดต่อไปกันเถอะ หมดเวลาแล้ว ไม่รู้กี่รอบ ก็ยังไม่ไปซักที อ้อยอิ่งกันอยู่ที่นี่อยู่นั่น
แปะก้วยต้นนี้ใหญ่มากๆ กำลังเหลืองสวยเลยค่ะ
หลังจากจบจากทริปชมใบไม้แดงที่เกียวโตครั้งนี้แล้ว เราก็เห็นด้วยกับโพยทั้งหลายที่เคยอ่านมา
ขอยกให้วัด Eikando เป็นที่หนึ่งของสถานที่ชมใบไม้แดงในเกียวโตเลยค่ะ งามละลานตาจริงๆ
ในที่สุดก็ถึงเวลาอำลา Eikando แล้ว ประทับใจมากจริงๆค่ะ
คลิปเด็กจิ๋วพาเที่ยววัด Eikando ตอนใบไม้แดงๆ แดงได้อีก
Kyoto Day 2 (21 November 2014) : Nanzenji Temple
ออกจากวัด Eikando เราเดินต่อมาอีกประมาณ 5 นาทีก็จะถึงบริเวณวัด Nanzenji ค่ะ
ที่นี่ก็ขึ้นชื่อเรื่องใบไม้แดงเช่นกัน เข้ามาก็เจอเยอะเลย สวยอีกแล้วค่ะ
Nanzenji เป็นวัดใหญ่ที่มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่มากๆ ไม่มีเก็บค่าเข้าตรงส่วนกลาง
แต่ถ้าจะเข้าไปในวัดย่อยๆ หรือบางอาคาร บางส่วนของวัด ก็จะมีค่าเข้าอยกเป็นส่วนๆไปค่ะ
เราเลือกเข้าส่วนที่เรียกว่า Tenjuan Garden ค่าเข้า 400 เยนค่ะ
ซื้อตั๋วแล้วเดินมาทางนี้เลยค่ะ
เข้ามาเจอสวนหินก่อนเลย ที่นี่ตอนกลางคืนก็มีเปิดไฟ Illumination เช่นกันค่ะ
ดูจากสถานที่แล้วค่อนข้างคับแคบมาก กลางคืนน่าจะคนเยอะ จะเบียดกันตรงไหนนึกไม่ออกเลยค่ะ
เดินผ่านสวนหินเข้ามาจะเจอของดีค่ะ ตรงนี้มีสวนใบไม้แดงล้อมรอบสระน้ำ
มีอาคารสวยๆเป็นพร๊อพ แถมยังมีป่าไผ่ขนาดย่อมๆด้วย
ร่มรื่น และสวยมากๆค่ะ ไม่ผิดหวังที่เลือกเข้ามาที่นี่จริงๆ
คลิปเด็กจิ๋วพาเที่ยว Tenjuan Garden วัด Nanzenji ค่ะ
ออกจากวัด Nanzenji เราก็เดินไปวัดเงิน Ginkakuji กันค่ะ
ทัวร์นี้เน้นเที่ยว ไม่เน้นกิน ฉะนั้นไม่มีการแวะกินข้าวค่ะ เดี๋ยวเที่ยวไม่ครบวัด
ถ้าหิวก็แวะซื้ออะไรข้างทางประทังชีวิตไปค่ะ โชคดีที่ญี่ปุ่นของกินอร่อยๆมีขายเยอะ เลยรอดค่ะ
เราเดินตามเส้นทางถนนสายนักปราชญ์ (Philosopher’s path) ประมาณ 15 นาทีก็มาถึงวัดเงินค่ะ
ถนนเล็กๆเส้นนี้ ถ้าเป็นฤดูซากุระบาน จะสวยงามมาก หวานๆไปด้วยซากุระสองข้างทาง
แต่สำหรับฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ก็จะธรรมดาค่ะ สนุกหน่อยตรงมีร้านขายของ ขายขนมโน่นนี่เป็นระยะๆ
คลิปเด็กจิ๋วพาเดินถนนสายนักปราชญ์ ไปวัดเงินกันค่ะ
Kyoto Day 2 (21 November 2014) : Ginkakuji Temple
มาถึงแล้วค่ะ วัดเงิน Ginkakuji ซื้อบัตรราคา 500 เยนแล้วก็เข้ามากันเลยค่ะ
สำหรับที่วัดเงินแห่งนี้ ไม่ได้โด่งดังเรื่องใบไม้แดง แต่เราเลือกมาที่นี่เพราะเคยมาแล้วชอบ เลยอยากมาอีกค่ะ
ชอบสวน สวนหิน ชอบทางเข้า ชอบตัวอาคารไม้ของวิหารเงิน
ใบไม้แดงที่นี่ก็มี แต่ไม่อลังการแดงฉานเหมือนวัดอื่นๆที่เราไป แต่รวมๆแล้วก็ยังคงประทับใจที่นี่ค่ะ
ภายในวัดจะมีเนินเขาให้เดินขึ้นไปชมวิวจากมุมสูงได้ด้วยค่ะ
เราใช้เวลาที่นี่กันราวๆ 1 ชั่วโมงค่ะ ต้องไปต่ออีก 1 วัดตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ค่ะ
คลิปเด็กจิ๋วพาเที่ยววัดเงินค่ะ
Kyoto Day 2 (21 November 2014) : Enkoji Temple
ออกจากวัดเงิน เราจะไปต่อที่วัด Enkoji กันค่ะ
วัดนี้ค่อนข้างไกลออกไป และเรากลัวว่ากว่าจะเดินไปรอรถเมล์ นั่งรถเมล์จะช้า
ก็เลยเรียกแท็กซี่พาไปค่ะ คิดว่าไม่ไกลมาก ค่าแท็กซี่ไม่น่าจะแพงมากนัก
ตอนขึ้นแท็กซี่เราก็เอารูปให้ดู พร้อมชื่อวัดภาษาญี่ปุ่นที่เรา google หามา
คุณแท็กซี่ก็ขับไปด้วยความมั่นใจ แต่พอใกล้ๆจะถึงวัด (เรารู้เพราะกด Google Map ในมือถือด้วย) กลับหาทางเข้าไม่ได้ซะยังงั้น
เราพยายามบอกให้คุณแท็กซี่เลี้ยวไปที่ถนนเล็กๆที่ Google Map บอก แต่คุยกันไม่รู้เรื่องจริงๆ
วนไปมาหลายรอบก็หาไม่เจอ ขนาดลงไปถามทางคนแถวนั้นก็ยังไม่เจอ
จนคุณแท็กซี่เค้าคงเกรงใจเลยกดมิเตอร์ออก
ในที่สุดเราก็ไม่ไปวนกับพี่เค้าแล้ว เพราะมันเย็นมากแล้ว เราดูจากใน Google Map มันไม่ไกล
เราเลยขอลงเดินดีกว่า และเพื่อความชัวร์ พอลงจากรถก็ถามทางคุณแม่บ้านญี่ปุ่นแถวๆนั้น เค้าบอกทางให้ละเอียด ก็เดินไปถึงวัดจนได้
(ขอบอกว่าขากลับง่ายมากค่ะ เดินลงเนินมาจากวัดไม่ไกลก็ถึงป้ายรถเมล์แล้ว นั่งสาย 5 ยาวๆ ถึงสถานีเกียวโตเลยค่ะ)
แรกเห็นวัดนี้ หลงรักเลยค่ะ สวนหินน่ารักมาก
เริ่มเข้ามาด้านในวัด มีแดงๆให้เห็นบ้างแล้วค่ะ
เราจำต้องถ่ายรูปกับสาวคนนี้นะคะ เพราะเรานั่งรอเธอลุกนานมากๆ เธอก็ไม่ลุกซะที เลยมาถ่ายด้วยกันเลย
วัดนี้เป็นวัดเล็กๆ ตรงสวนใบไม้แดงก็ไม่ได้ใหญ่มากนัก แต่ก็สวยงามมีสเน่ห์ค่ะ
และมุมนี้นี่เองค่ะ ที่ทำให้เรามาที่นี่
เราเห็นภาพสวนใบไม้แดงที่มองผ่านระเบียงออกไปใน web ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ก็ตัดสินใจเลือกที่นี่เลยค่ะ
ไปนั่งตรงนั้นจริงๆแล้วก็ฟินนะคะ อารมณ์ได้เลยค่ะ นั่งกันอยู่นานมากๆ
คือจริงๆแล้วนั่งรอจังหวะคนลุกออกจากเฟรม จะได้ถ่ายเฉพาะภาพวิว
นั่งกันนานมากๆ จนปะป๊ารอไม่ไหว ไปถ่ายมุมอื่นดีกว่า
พอปะป๊าไปเท่านั้นแหละ โล่งเลยค่ะ คนพร้อมใจกันลุกไปหมด
แม่ก็ได้แต่เอามือถือมาถ่าย ซึ่งได้ภาพห่วยมาก
ฉะนั้นมุมนี้ก็เลยได้มาแบบนี้ค่ะ
ออกจากวัดมา พระอาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้ว เลยได้แสงสวยๆแบบนี้มาด้วยค่ะ
คลิปเด็กจิ๋วพาเที่ยววัด Enkoji ค่ะ
จบวันที่สองที่เกียวโตอย่างสมบูรณ์แบบตามที่วางแผนเอาไว้นะคะ
ต่อจากวัด Enkoji เราก็นั่งสาย 5 กลับสถานีเกียวโต ไปช้อปอาหารที่ซูเปอร์มาร์เก๊ตห้าง Isetan กันค่ะ
มีแถมคลิปช้อปปิ้งให้ดูด้วยค่ะ
Kyoto Day 3 (22 November 2014) : Tofukuji Temple
วันสุดท้ายที่เกียวโต เราเริ่มต้นด้วยวัด Tofukuji ที่ขึ้นชื่อเรื่องใบไม้แดงเหมือนกันค่ะ
รู้มาว่าควรมาแต่เช้าก่อนวัดเปิด เพราะถ้าสาย อาจต้องรอคิวยาวเฟื้อยหน้าวัด เหมือนต่อคิวเครื่องเล่นสวนสนุกค่ะ
เรามาช้ากว่าที่คิดไว้ เพราะมัวแต่วุ่นวายผิดแผนกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่นิดหน่อย กว่าจะมาถึงก็ได้เวลาเปิดวัดพอดีค่ะ
การเดินทางมาที่นี่จากสถานีเกียวโตง่ายมากๆ เรานั่งรถไฟ JR Nara Line ไปแค่ 1 สถานี ลงที่ Tofukuji Station เลยค่ะ
ลงรถแล้วก็เดินตามฝูงชนไปเช่นเคยค่ะ คราวนี้เราไปถึงก็อึ้งค่ะ คิวรอซื้อตั๋วเข้าวัดยาวมากๆ
แต่ก็รอไม่นานเพราะแถวเคลื่อนเร็ว ราคาตั๋วเข้าวัดนี้ 400 เยนค่ะ
เข้ามาก็เริ่มเห็นสีแดงๆกันแล้วค่ะ แดงฉานเลย แต่ตรงนี้ยังไม่ใช่มุมมหาชนนะคะ ต้องไปที่สะพานค่ะ
สะพาน Tsutenkyo จะเป็นมุมมหาชนที่ต้องไปดูใบไม้แดงจากจุดนี้ให้ได้
เราเห็นคนแล้วท้อแท้มากๆ คือคนเยอะมากๆ จริงๆก็ไม่ได้เยอะกว่าวัดน้ำใส (อันนั้นชนะเลิศ)
แต่ด้วยความที่มันเป็นสะพาน ทางมันแคบ เลยเบียดกันมากๆ เบียดสุดๆ
เราเลยขอทำใจมาชมสวนก่อนจะไปเบียดบนสะพาน
สวนตรงนี้มีบางส่วนที่ใบยังเขียวอยู่ แต่เขียวๆแบบนี้ก็สวยมากค่ะ
ตรงนี้หลากสีนะคะ เขียว เหลือง ส้ม แดง สวยจริงๆค่ะ
มองไปที่สะพาน ท้อแท้มากค่ะ พยายามเข้าไปเบียดดูแล้ว เด็กโดนชนกระเด็นเลยค่ะ
กลัวเด็กโดนเหยียบเลยยอมแพ้ ส่งปะป๊าไปเป็นตัวแทนเบียดในครั้งนี้ค่ะ
ปะป๊าหายไปกับฝูงชนในสะพานพักใหญ่ ก็กลับมาด้วยสภาพยับเยินมากค่ะ
บอกแต่ว่าเบียดมากๆ เกิดมาไม่เคยเบียดอะไรมากเท่านี้มาก่อนจริงๆ
แถมคนญี่ปุ่นที่เบียดๆ อยู่ ก็เบียดอย่างอารมณ์ดี ปากร้องสุโก้ยๆ มือก็ถ่ายรูป มันสุดยอดแห่งการเบียดจริงๆ
แต่รูปที่ได้มาจากมุมนี้ก็สมกับที่ต้องเบียดนะคะ งาม แดงฉานที่สุดค่ะ
รอดชีวิตจากสะพานเบียดมาได้ เลยมาหน่อยจะเป็นจุดนี้ค่ะ งามเช่นกัน ใบไม้แดงได้อีก สวยจริงๆค่ะ
แล้วพอจะเดินลงไปด้านล่างก็ติดอีกค่ะ คือติดอยู่ในกลุ่มคนตรงนี้นานมากๆ ไม่ขยับซักที หรือขยับก็ช้ามากๆ
จนพอเคลื่อนไปถึงได้รู้ว่าเป็นทางลงแคบๆ แล้วคนเค้าหยุดถ่ายรูปกันตรงนี้ แถวเลยไม่ขยับ
แค่วัดแรกก็มึนแล้วค่ะวันนี้ เมาคนจริงๆนะคะ เพราะมันแคบๆต้องเบียดกันตลอด
กว่าจะฝ่าฝูงชนลงมาด้านล่างได้นี่ไม่ธรรมดาจริงๆ ค่ะ
ถ้ามาที่นี่เตรียมใจไว้เลยค่ะ และพยายามทำใจให้มีความสุขกับการเบียดค่ะ
มองย้อนขึ้นไป ยิ่งสายคนยิ่งเยอะขึ้นๆ ค่ะ
เราเดินเล่นในสวนด้านล่างแป๊บนึงก็กลับออกมา เมาคนจริงๆค่ะ
คลิปเด็กจิ๋วพาเที่ยววัด Tofukuji ค่ะ
Kyoto Day 3 (22 November 2014) : Arashiyama
จบจากวัด Tofukuji เราก็เดินกลับไปที่สถานี Tofukuji นั่งรถไฟสาย Nara ย้อนกลับไปที่สถานีเกียวโต
แล้วก็นั่งสาย JR Sagano ไปลงที่สถานี Saga Arashiyama ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
ใครที่มาดูใบไม้แดงที่เกียวโต จะต้องไม่พลาดมาชมสีสันริมแม่น้ำโฮซุ (Hozu River) ที่ Arashiyama
Arashiyama วันนี้คึกคักกว่าที่เราเคยมาตอนนอกฤดูกาลใบไม้แดงมากๆ คนเยอะแยะ อาหารการกินขายเต็มไปหมด
เราค่อยๆเดินมาริมน้ำ ข้ามสะพาน Togetsukyo ไปนั่งปิคนิคหม่ำโอเด้งที่ซื้อมาจาก Lawson ริมแม่น้ำ
บรรยากาศดีสุดๆเลยค่ะ
ตรงนี้มีคนมาเช่าเรือพาย หรือ ไม่ก็นั่งเรือรับจ้างล่องแม่น้ำโฮซุกันเยอะเลยค่ะ
เรากะว่าจะเช่าเรือบ้างเหมือนกัน เพราะเด็กจิ๋วอยากนั่งเรือพายมาก
แต่เวลาไม่อำนวยเท่าไหร่ เย็นนี้เรายังมีโปรแกรมไปอีกหลายที่
แถมยังต้องเดินทางไปโตเกียวอีกต่างหาก เลยอดไปตามระเบียบ
เราเลือกเดินเลาะไปตามริมแม่น้ำ ดูคนพายเรือ ชมวิวแม่น้ำสีสวยๆ ใบไม้สีสวยๆ
ท่ามกลางอากาศเย็นๆ แค่นี้ก็มีความสุขมากๆแล้วค่ะ
เดินมาระยะหนึ่งจะเจอตรงนี้ เป็นท่าเรือที่คนมาขึ้นเรือแจวล่องแม่น้ำกัน
เดินมาแค่นี้ก็เดินกลับค่ะ เริ่มเย็นมากแล้วเลยต้องทำเวลาหน่อยค่ะ ยังไม่ไม่ได้ไปเดินป่าไผ่เลย
คลิปเด็กจิ๋วพาเที่ยว Arashiyama ชมวิวแม่น้ำ Hozu ค่ะ
เราเดินข้ามสะพานกลับมา แล้วก็มุ่งหน้าไปป่าไผ่เลยค่ะ
เราเคยมาป่าไผ่ครั้งนึง แต่ตอนนั้นมาเช้าตรู่ ไม่มีคนเลย เดินกันอยู่คณะเดียว
แต่วันนี้นี่คือคนเดินกันแน่นถนนในป่าไผ่ค่ะ เพื่อนเดินเต็มเลย ไม่ต้องกลัวหลงกลัวเหงาเลยค่ะ
Kyoto Day 3 (22 November 2014) : Jojakkoji
เดินเข้ามาพักนึงก็มาถึงวัดสุดท้ายของโปรแกรมที่วางแผนไว้ค่ะ
วัด Jojakkoji เป็นวัดเล็กๆ อยู่แถวๆป่าไผ่ Sagano เราเดินหลงนิดหน่อย ใช้ถามๆคนเอาก็มาถึงได้ไม่อยากค่ะ
วัด Jajokkoji ไม่ได้โด่งดังมาก เป็นวัดเล็กๆ แต่เราอยากมา เพราะจำได้ว่าเคยเดินหลงมาเจอวัดนี้เมื่อครั้งก่อน แล้วชอบที่นี่มาก
มาถึงก็ไม่ผิดหวังนะคะ ใบไม้สีส้มๆ สวยไปอีกแบบ
(ค่าเข้าชมวัดนี้ 400 เยนค่ะ)
เดินขึ้นเนินไปด้านบน จะได้วิวนี้นะคะ พระอาทิตย์ใกล้ตกแล้ว
เราปิดท้ายทริปใบไม้แดงเกียวโตเอาไว้ที่วัดนี้ด้วยความประทับใจค่ะ
นับว่าเป็นทริปที่ประสบความสำเร็จมากๆ เพราะไปเจอพีคๆทุกที่ สวยมากๆทุกที่จริงๆ
คลิปเด็กจิ๋วพาเที่ยววัด Jojakkaji ค่ะ
หวังว่าบันทึกการเดินทางของเราจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังจะไปตามล่าหาใบไม้แดงเหมือนกับเรานะคะ
ใครมีโปรแกรมไปปลายเดือนนี้ ขอให้เจอแดงๆ พีคๆ จัดๆ ทุกๆที่เลยนะคะ
บ้าย บายค่ะ