ใบไม้แดงที่ญี่ปุ่น เป็นที่ที่เราใฝ่ฝันจะไปเห็นด้วยตามากๆค่ะ โดยเฉพาะที่เกียวโต
เราเคยไปดูมาแล้วครั้งนึงช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนของเมื่อหลายปีก่อน
ซึ่งถือว่ายังเร็วเกินไป ใบไม้ยังไม่ทันจะแดงเลยค่ะ
มาคราวนี้ขอแก้ตัวใหม่ กะว่าจะต้องตรงช่วงแดงจัดของเกียวโตให้ได้
แล้วก็ได้มาว่าควรจะเป็นช่วงสัปดาห์สุดท้ายของพฤศจิกายนนี่แหละค่ะ
โพสต์นี้เราจะขอสรุป 10 สถานที่ดูใบไม้แดง ของเราในทริปนี้กันค่ะ
ทุกที่สวยงามและน่าประทับใจไปคนละแบบ ฉะนั้นขอจัดลำดับตามความชอบส่วนตัวของช่างภาพนะคะ
เอาล่ะค่ะ พร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ ว่า 10 อันดับที่ดูใบไม้แดงของเรามีที่ไหนบ้าง
(ความจริงอาจจะยังทีอีกหลายที่อีกหลายวัดที่มีใบไม้แดงสวยๆ อาจจะสวยกว่าที่เราไปด้วยซ้ำ แต่เราไม่ได้ไป ก็เลยไม่ได้เอามาจัดอันดับนะคะ)

อันดับ 10: Momijidani, Miyajima (สวนโมมิจิดานิ เกาะมิยาจิม่า)
วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557
ค่าเข้าชม: ฟรี
ข้อมูลเพิ่มเติม: http://www.japan-guide.com/e/e3456.html

เราเจอที่นี่ด้วยความบังเอิญค่ะ จุดประสงค์หลักคือเราจะมาดูเสาแดงโทริอิกลางน้ำกัน
แต่พอหาข้อมูลแล้วก็เจอว่าหลังวัด Itsukushima จะมีสวนที่ชื่อว่า Momijidani อยู่
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าต้องมีต้น Momiji หรือเมเปิ้ลแน่นอน ฉะนั้นฤดูนี้เมเปิ้ลก็ต้องแดง
เราก็เลยใส่ที่นี่ไว้เป็นอีกจุดหมายในการชมใบไม้แดงของเราค่ะ

สวน Momijidani อยู่ด้านหลังวัด Itsukushima นะคะ เดินไปไม่ยากเลย เพราะมีป้ายบอกทางตลอดค่ะ
เดินมาถึงสะพานนี้ก็รู้ว่ามาถึงแล้วค่ะ สวน Momijidani

ข้ามสะพานไปแล้วเดินลึกเข้าไปหน่อยก็จะมีหมู่มวลใบไม้เปลี่ยนสีอีกค่ะ
ช่วงที่เราไปเหมือนจะเลยช่วงพีคของที่นี่ไปแล้ว หลายต้นเริ่มร่วงโรย ที่นี่เลยตกลงมาเป็นอันดับสิบนะคะ
(จริงๆเป็นเพราะเราไปช้าไปหน่อยนะคะ ช่วงพีคอาจจะสวยกว่านี้มากก็ได้ค่ะ)

จบจากชมโมมิจิแดง อย่าลืมแวะชิมขนมโมมิจิมันจูด้วยนะคะ แบบที่เอาไปทอดไส้เกาลัด หม่ำตอนร้อนๆ ท่ามกลางอากาศหนาวๆ ฟินมากๆค่ะ

อันดับ 9: Hozugawa, Arashiyama (ริมแม่น้ำโฮซุ อาราชิยาม่า)
วันที่: 22 พฤศจิกายน 2557
ค่าเข้าชม: ฟรี
ข้อมูลเพิ่มเติม: http://www.japan-guide.com/e/e3912.html

เชื่อว่าถ้าใครไปเที่ยวดูใบไม้แดงที่เกียวโต ก็คงไม่พลาดที่จะเลยออกมาเที่ยวแถบนี้แน่นอน
เพราะแถวนี้ก็เป็นแหล่งดูใบไม้แดงที่สวยมากๆเช่นกัน
(Arashiyama อยู่เลยเกียวโตออกมาทางตะวันตกไม่ไกลค่ะ นั่งรถไฟจากสถานีเกียวโต มาลงที่สถานี Saga Arashiyama ใช้เวลาแค่ 10 นาที)
โดยเฉพาะริมแม่น้ำ Hozu น้ำสีสวยๆ ตัดกับใบไม้สีแดง มีคนมาล่องเรือ พายเรือกันเต็มไปหมด บรรยากาศดีมากๆค่ะ

ตรงจุดนี้เราเดินข้ามสะพาน Toketsukyuo แล้วเลี้ยวขวา เดินชมวิวไปเรื่อยๆ สโลว์ๆ ฟินมากๆค่ะ
(ริมแม่น้ำเดินได้ทั้งสองฝั่งนะคะ เพื่อนบางคนบอกว่าเดินอีกฝั่ง คือไม่ค้องข้ามสะพาน ก็สวยเหมือนกันค่ะ)

ประมาณกิโลกว่าๆ จะเจอจุดนี้ น้ำตรงนี้สีสวยมากๆค่ะ

ทีแรกบ้านเราก็กะว่าจะเช่าเรือพายเหมือนกัน แต่ด้วยเวลาที่มีจำกัด และข้าวของมากมาย มีเด็กอีกต่างหาก
เลยขอชมบรรยากาศจากบนฝั่งก็พอแล้วค่ะ

สำหรับที่นี่ บรรยากาศดีมากจริงๆ มาเดินเล่นช้าๆ ริมน้ำ มองวิว ก็สุขสดชื่นมากๆแล้วค่ะ
ถ้ามีเวลาได้ลงเรือล่องแม่น้ำโฮซุด้วย คงจะได้วิวงามอีกแบบนะคะ

อันดับ 8: Ginkakuji, Kyoto (วัดเงิน เกียวโต)
วันที่: 21 พฤศจิกายน 2557
ค่าเข้าชม: 500 เยน
ข้อมูลเพิ่มเติม: http://www.japan-guide.com/e/e3907.html

ที่วัดเงินไม่ได้มีใบไม้แดงจัดๆ เยอะมากนัก แต่ด้วยรูปแบบการจัดสวน ทำให้เราชอบที่นี่มากๆ
มันดูสวยงามลงตัวไปหมด ไม่ว่าจะเป็นสวนต้นไม้ หรือสวนหิน

ตัววัดที่เป็นอาคารหลักของที่นี่ก็จะเล็กๆ แต่เรียบง่ายสวยงาม
เราชอบที่นี่มากกว่าวัดทอง Kinkakuji นะคะ ครั้งนี้เลยไม่ได้เลือกไปวัดทองค่ะ

เหตุผลอีกอย่างที่เราชอบวัดเงินก็คือที่นี่มีมอส เฟิร์น ปลูกมอสคลุมดินทั่วบริเวณ
เวลาใบไม้แดงร่วงลงไปบนพรมมอสเขียวๆ มันสวยมากค่ะ

ที่นี่ยังมีเนินเขาเตี้ยๆ ที่สามารถเดินขึ้นไปและมองลงมาเห็นตัวปราสาทท่ามกลางสวนสวยจากมุมสูงอีกด้วยค่ะ

อันดับ 7: วัด Jojakkaji Temple, Arashiyama (วัดโจจั๊กกาจิ อาราชิยาม่า)
วันที่: 22 พฤศจิกายน 2557
ค่าเข้าชม: 400 เยน
ข้อมูลเพิ่มเติม: http://www.japan-guide.com/e/e3912.html

เรามาที่วัดนี้เพราะว่าเคยมาที่นี่เมื่อหลายปีก่อนแล้วชอบมาก ตอนนั้นเดินหลงมาค่ะ หาวัดที่ตั้งใจจะไปไม่เจอ
มาเจอวัดนี้แทน แล้วพอเข้าไปก็ชอบมากๆ ขนาดตอนนั้นที่หลงมา ใบไม้ยังไม่ค่อยแดงเท่าไหร่
มาคราวนี้กำลังพีคเลยทีเดียว บวกกับตอนที่ไปถึงเย็นมากแล้ว เลยได้แสงเย็นสวยๆมาด้วยค่ะ

วัดนี้อยู่ในบริเวณป่าไผ่ Arashiyama นะคะ ความจริงมีวัดในบริเวณนี้ที่โด่งดังกว่าวัดนี้หลายวัด
แต่เราไม่ได้เข้า เพราะเวลาไม่พอ เลือกมาที่นี่เป็นที่สุดท้ายของใบไม้แดงเกียวโตทริปนี้เลยค่ะ
แล้วก็ไม่ผิดหวังนะคะ เพราะคิดว่ากำลังพีคของที่นี่เลย สวยมากๆ ชอบตรงที่แดงอมส้มๆ ไม่แดงจัดค่ะ

มุมสูงของวัดนี้ มองลงไปเห็นเมืองเกียวโตด้วยค่ะ

การเดินทางมาที่นี่ก็ไม่ยากค่ะ เดินเข้าป่าไผ่มาจากทางริมน้ำ แล้วเดินทะลุป่าไผ่มาราวๆครึ่งชั่วโมงก็จะเจอวัด Jojakkaji เวลาเดินในป่าไผ่ เราจะไม่รู้สึกว่านานเพราะเราจะเดินถ่ายรูปป่าไผ่ไปเรื่อยๆ เพลินเลยค่ะ

อันดับ 6: Enkoji Temple, Kyoto (วัดเอนโคจิ เกียวโต)
วันที่: 21 พฤศจิกายน 2557
ค่าเข้าชม: 500 เยน
ข้อมูลเพิ่มเติม: http://www.japan-guide.com/e/e3969.html

เรารู้จักวัดนี้จาก japan-guide.com ค่ะ พอเห็นรูปสวนใบไม้แดงที่มองลอดระเบียงแบบญี่ปุ่นออกมา
ก็ตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะต้องมาเที่ยวที่นี่ให้ได้ ถึงแม้ดูเหมือนการเดินทางจะไม่ง่ายเท่าไหร่นัก
แล้วก็จริงๆด้วย กว่าจะมาถึงที่นี่ได้ ยากเย็นแสนเข็ญมากๆสำหรับเรา
ความจริงเราตั้งใจจะนั่งรถเมล์มาที่นี่ตามโพยที่ได้มา แต่เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการรอรถเมล์ จบจากเที่ยววัดเงินแล้ว ปะป๊าก็เลยเรียกแท็กซี่ กะว่าจะได้ไปถึงเร็วๆ
แต่กลับกลายเป็นว่าแท็กซี่หาวัดไม่เจอ ขับวนไปมาตรงทางเข้าวัดหลายรอบมากๆ
พยายามลงไปถามทางคนแถวนั้นก็ยังหาทางเข้าวัดไม่ได้ ในที่สุดเราทนไม่ไหวก็ขอลงเดินไปเองดีกว่า
เพราะดูจาก google map ในมือถือแล้ว มันอยู่ใกล้จุดที่หลงไปมานิดเดียว
เราโชคดีที่พอลงรถก็เจอคุณแม่บ้านญี่ปุ่นใจดี เราถามทางเธอ เธอก็อธิบายให้อย่างละเอียด
ก็เลยมาถึงวัดนี้จนได้ … แค่ทางเข้าก็สวยแล้วค่ะ สวนหินที่นี่สวยมากๆ

แบบนี้แหละค่ะ ที่อยากมาเห็น นั่งมองกันเพลินๆเลย

วัด Enkoji เป็นวัดเล็กๆ ส่วนดูใบไม้แดงไม่ได้ใหญ่โตกว้างขวางมากมาย
แต่สีสันของที่นี่สวยงามจริงๆ ไม่เสียแรงที่ดั้นด้นมา

ตอนจะกลับออกมา พระอาทิตย์กำลังจะตกดินพอดี ได้แถมมุมนี้มาด้วยค่ะ ชอบจังเลย

ขากลับ เดินออกมาขึ้นรถเมล์แบบง่ายๆเลย นั่งสาย 5 กลับไปลงที่สถานีเกียวโต แต่นั่งนานนิดนะคะ ประมาณ 50 นาทีค่ะ เพราะวัดนี้ไกลออกมามาก และไม่อยู่ในเขตตั๋วรถเมล์แบบ one-day pass 500 เยนด้วยค่ะ

อันดับ 5: Kiyomizudera, Kyoto (วัดน้ำใส เกียวโต)
วันที่: 20 พฤศจิกายน 2557
ค่าเข้าชม: 400 เยน สำหรับช่วงกลางคืน (300 เยน สำหรับช่วงกลางวัน)
ข้อมูลเพิ่มเติม: http://www.japan-guide.com/e/e3901.html

ปะป๊ากับแม่เคยมาที่วัดน้ำใสตอนกลางวันแล้ว คราวนี้เราอยากมาเห็นแบบตอนกลางคืนบ้าง
ช่วงฤดูใบไม้ผลิซากุระบาน กับช่วงใบไม้แดง ตอนกลางคืนทางวัดจะมี Evening Illumination ค่ะ
ซึ่งใครๆก็บอกว่าใบไม้แดงส่องไฟตอนกลางคืนที่นี่สวยมากๆ และคนจะเยอะมากๆ
เราก็เลยวางแผนมาที่นี่กันเย็นวันพฤหัส กะว่าวันธรรมดาจะได้คนไม่เยอะเท่าเสาร์-อาทิตย์
ที่ไหนได้ เราต้องต่อคิวซื้อตั๋วเข้าวัดกันตั้งแต่แถวๆตีนเขาเลยค่ะ
คือถ้าใครเคยไปที่นี่คงพอจะนึกออกว่าทางขึ้นวัดเป็นทางขึ้นเขา และระหว่างทางก็จะมีร้านค้า ขายขนม ขายของที่ระลึกเยอะมาก ตลอดสองข้างทาง
ทีแรกเรากะไปถึงก่อนเวลานิดหน่อย เดินช้อปปิ้งดูของไปเรื่อยๆ แต่เปล่าเลยค่ะ ต้องรีบไปต่อแถวเพื่อซื้อตั๋วแทน
จริงๆถ้าใครไม่ซีเรียสเรื่องการถ่ายรูปช่วงทไวไลท์ จะรอค่ำๆกว่านี้ซักหน่อย ไม่ต้องรีบเข้าตั้งแต่ 18.30 น.ที่เค้าเปิด ก็คงไม่ต้องต่อแถว และไม่ต้องเบียดขนาดนี้ค่ะ

ผู้คนที่หลั่งไหลมาดู Light up ที่นี่เยอะมากจริงๆ ประมวลผลหลังจากจบทริปใบไม้แดงแล้ว
ยกให้ที่นี่เป็นที่ที่คนเยอะอันดับ 1 เลยค่ะ
เวลาเข้าไปนี่ก็ไม่ต้องเดินค่ะ ใช้ไหลๆกันไป ปะป๊าบอกว่าถ่ายรูปยากมากๆ พอไหลผ่านจุดที่สวยๆ
ต้องรีบกดๆเลย มันจะไหลเป็นวันเวย์ด้วยนะคะ ไม่สามารถย้อนกลับมาถ่ายได้ค่ะ
และที่นี่ไม่ให้กางขาตั้งกล้องนะคะ แต่ละคนต้องใช้ความสามารถพิเศษในการวางกล้องตามราวเอง
อย่างปะป๊าก็เอาขาไปก็กางไม่ได้ ก็ปักค้ำๆไว้พอให้กล้องนิ่งๆ แล้วรีบๆถ่ายมา

จุดนี้มีเรื่องขอชื่นชมคนญี่ปุ่นมากๆค่ะ ขนาดว่าคนเยอะไหลขนาดนี้ เค้าเห็นเรามีเด็ก มีรถเข็นเด็ก เค้าจะช่วยหลบทาง ช่วยดันรถอะไรแบบนี้ตลอดค่ะ หนุ่มๆสาวๆญี่ปุ่นก็จะหลบให้เราเข็นลูกไปก่อนด้วย น่ารักจริงๆค่ะ

อันดับ 4: Maple Corridor, Kawaguchiko (อุโมงค์เมเปิ้ลแดง ริมทะเลสาบคาวากูจิโกะ)
วันที่: 19 พฤศจิกายน 2557
ค่าเข้าชม: ฟรี
ข้อมูลเพิ่มเติม: http://www.japan-guide.com/e/e6906.html

ทริปนี้เราตั้งใจแค่ไปดูใบไม้แดงที่เกียวโต แต่ช่วงหาข้อมูล ดันไปเจอรูปใบไม้แดงริมทะเลสาบ Kawaguchiko
ก็เลยอดใจไม่ไหว ต้องใส่ที่นี่มาเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางด้วย
ซีนที่เราเห็นแล้วอดใจไม่ได้ก็วิวประมาณนี้เลยค่ะ ใบไม้แดงคู่คุณฟูจิยาม่า
ตอนได้มาเห็นด้วยตาตัวเองนี่สุดๆค่ะ ฟินมากๆ ถ่ายรูปกันรัวๆ

จุดดูใบไม้แดงที่เด่นๆ รอบทะเลสาบ ก็จะมีที่ Maple Corridor กับอีกที่คือ Maple Tunnel
(เราไม่ได้ไป Maple Tunnel เพราะตอนเราไป มันร่วงหมดแล้ว)
เรานั่งรถเมล์ Retro Bus ที่วนรอบทะเลสาบมาลงป้าย Art Museum แล้วเดินมานิดเดียวก็จะเจอ Maple Corridor ค่ะ หาไม่ยากเลย เพราะผู้คนเยอะมาก และจะมีมาออกร้านขายของบริเวณใกล้ๆ คึกคักมากๆค่ะ
ตรงนี้เป็นร่องระบายน้ำ ที่มีต้นเมเปิ้ลต้นโตๆ ปลูกเป็นแนวริมร่องระบายน้ำ
ไม่น่าเชื่อว่าพอใบไม้เปลี่ยนสี ร่องระบายน้ำนี้ จะสวยได้ขนาดนี้ค่ะ

เราเดินเล่นถ่ายรูปกันจุดนี้นานมากๆค่ะ เลยเวลาที่ตั้งใจเอาไว้หลายชั่วโมงมากๆ
ปะป๊าถ่ายรูปที่นี่ไปเยอะมากจริงๆ เค้าชอบที่นี่มากมาย บอกว่าเมเปิ้ลต้นโตดี ใบสวย แสงสวย ถ่ายรูปสนุกมาก

เดินเล่นที่ Maple Corridor แล้ว ก็อย่าพลาดมาเดินเล่นริมทะเลสาบด้วยนะคะ
ภาพฟูจิซังในเฟรมของเมเปิ้ลแดงอย่างที่อยากมาเห็น ต้องถ่ายจากริมทะเลสาบค่ะ
ถ้าจากตรง Maple Corridor จะไกลไปหน่อยค่ะ

เราโชคดีมากที่วันที่มาที่นี่ฟ้าใสแจ๋ว ฟูจิซังออกมาต้อนรับทั้งวันเลย
ผิดกับคราวก่อนที่มาที่นี่ ครั้งนั้นไม่ได้เห็นแม้แต่เงาเลยค่ะ
แถมรูปจากห้องพักที่ Sunnide Resort ให้ด้วยค่ะ แล้วจะรีวิวโรงแรมนี้ในโอกาสต่อไปนะคะ

อันดับ 3: Tenjuan Temple, Nanzenji Temple, Kyoto (วัดเทนจวน ในวัดนันเซนจิ เกียวโต)
วันที่: 21 พฤศจิกายน 2557
ค่าเข้าชม: 400 เยน
ข้อมูลเพิ่มเติม: http://www.japan-guide.com/e/e3905.html

สวนของวัด Tenjuan เป็นอีกที่ที่เราประทับใจมากๆค่ะ วัด Tenjuan เป็นวัดย่อยภายในวัด Nanzenji อีกที
คือในบริเวณวัด Nanzenji จะใหญ่มาก แบ่งออกเป็นหลายส่วน
การเข้าชมในแต่ละส่วนก็จะต้องเสียค่าเข้าต่างหากแต่ละอัน

เราเลือกเข้าชมที่นี่เพราะดูรูปมาจากใน web แล้วคิดว่าน่าจะชอบที่สุดค่ะ
ที่นี่แบ่งออกเป็นสองส่วนคือสวนหิน กับสวนบ่อน้ำ
เดินเข้ามาเจอสวนหินกับใบไม้แดงก่อนเลย
ตรงนี้ตอนกลางคืนเค้ามี Evening Illumination ด้วยนะคะ คือเปิดไฟส่องต้นไม้แดงตอนกลางคืน
จะต้องซื้อตั๋วมาดูต่างหาก (500 เยน) ซึ่งเค้าว่ากันว่าคนจะเยอะมากมหาศาลกว่าตอนกลางวันค่ะ

เดินลึกเข้ามาหน่อย บรรยากาศร่มรื่นมากค่ะ เป็นสวนบ่อน้ำ มีป่าไผ่เล็กๆริมบ่อ
มีสะพานเดินวนรอบ บรรยากาศดีมาก ไม่ผิดหวังที่เลือกเข้ามาดูที่นี่ค่ะ

อันดับ 2: Tofukuji Temple, Kyoto (วัดโทฟุกุจิ เกียวโต)
วันที่: 22 พฤศจิกายน 2557
ค่าเข้าชม: 400 เยน
ข้อมูลเพิ่มเติม: http://www.japan-guide.com/e/e3930.html

เรายกให้ที่นี่เป็นสุดยอดที่ชมใบไม้แดงอันดับสองของทริปนี้เลยค่ะ ใบไม้แดงที่นี่สีสวยสดใสมากจริงๆ
แดงเยอะ แดงจัด สีแดงเพลิง สดมากๆค่ะ ความจริงที่นี่สวยสูสีกับอันดับหนึ่งของเรานะคะ ตัดสินยากมากๆ
ใบไม้แดงที่นี่เยอะ และแดงขนาดไหน ดูจากรูปเองเลยนะคะ

ที่นี่คนเยอะมาก และทางเดินค่อนข้างแคบ ฉะนั้นจะเบียดเสียดกันมากมายเลยทีเดียว
กว่าจะได้มาแต่ละรูปปะป๊าบอกว่าแทบแย่ เพราะเกิดมาไม่เคยเบียดอย่างนี้มาก่อนในชีวิต

ตรงลานในวัดข้างล่างก็โล่งๆนะคะ นั่งเล่นชมวิวได้สบายๆ ใบไม้แดงสวยเหมือนกันค่ะ

เราขอยกให้ที่นี่เป็นสุดยอดแห่งการเบียดดูใบไม้แดงที่ 1 ของทริปนี้เลยค่ะ สุโก้ย…

อันดับ 1: Eikando Temple, Kyoto (วัดไอกันโดะ เกียวโต) 
วันที่: 21 พฤศจิกายน 2557
ค่าเข้าชม: 1,000 เยน (เฉพาะช่วงใบไม้แดง ฤดูกาลอื่น 600 เยน)
ข้อมูลเพิ่มเติม: http://www.japan-guide.com/e/e3956.html

มาถึงที่หนึ่งสำหรับทริปนี้แล้วนะคะ คงหนีไม่พ้นวัด Eikando แน่นอนค่ะ
ก่อนไปเราหาข้อมูลเรื่องใบไม้แดงที่เกียวโต หลายๆเวปหลายๆสำนักก็จะยกให้ที่วัด Eikando เป็นสุดยอดที่ดูใบไม้แดงของเกียวโต
ซึ่งพอเราไปแล้วก็พบว่าจริงที่สุด สมแล้วที่ได้อันดับ 1 เพราะใบไม้แดงที่นี่ แดงสดได้ใจมาก และมีเยอะมาก บวกกับพร๊อพต่างๆที่มีในวัด ไม่ว่าจะเป็นสระน้ำ สะพาน เสาโทริอิ ทุกอย่างสวยงามลงตัวมากๆ
เรามาถึงวัดก่อนเวลาเปิด 15 นาทีนะคะ เข้าคิวซื้อตั๋วเข้าวัดไม่ยาวเท่าไหร่ แค่หน้าวัดก็สวยแล้วค่ะ

ที่นี่คนไม่เยอะอย่างที่คิดไว้ คือก็เยอะแต่ไม่ถึงกับเบียดค่ะ ยังพอค่อยๆเดินชื่นชมความงามใบไม้แดงได้อย่างค่อนข้างสบายค่ะ
เข้าวัดมาปุ๊บ ก็พุ่งมาตรงจุดถ่ายภาพที่คนเยอะที่สุดเลยค่ะ ไปเบียดถ่ายมา ได้มุมสระน้ำมุมนี้ แค่เริ่มก็สวยมากแล้วค่ะ

จริงๆบริเวณวัดก็ไม่ได้กว้างใหญ่มากนัก แต่เราใช้เวลาถ่ายรูปที่นี่นานมากๆ
สวยทุกมุมจริงๆค่ะ บางมุมนี่ถ่ายแล้วถ่ายอีก มีความสุขมากๆ
ฟินกับใบไม้แดงที่ตั้งใจมาดูที่เกียวโต เรียกว่าประสบความสำเร็จจริงๆค่ะ คืออย่างที่ฝันจะมาเห็นเลย

จบแล้วนะคะ 10 ที่ชมใบไม้แดงของทริปที่ผ่านมาของเรา
เราประทับใจทริปนี้กันมากๆ เพราะได้เห็นใบไม้แดงที่กำลังพีคเต็มที่ สวยงามอย่างที่อยากจะเห็นเลย
มีความสุขมากจริงๆค่ะ
กระทู้ต่อไป จะขอมาแนะนำที่ชมใบไม้เหลืองที่โตเกียวกันบ้างค่ะ ใบไม้เหลืองของต้นแปะก้วยก็งดงามไม่แพ้ใบไม้แดงนะคะ แล้วพบกันใหม่เร็วๆนี้ค่ะ