เด็กจิ๋ว Chill Out @ จามจุรี วิลล่า เกาะเต่า

ไปเที่ยวเกาะเต่ากันค่ะ …
นี่เป็นครั้งแรกที่ป๊ากับแม่ได้ไปเกาะเต่า แล้วเราก็พบว่าเกาะเต่าสวยมากๆ
ได้แต่สงสัยว่าทำไมเราที่เป็นคนไทยถึงไม่รู้มาก่อนว่าทะเลเกาะเต่าสวยขนาดนี้ ขนาดฝรั่งยังมากันให้เต็มเกาะไปหมด
เดี๋ยวเด็กจิ๋วจะพาไปดูนะคะว่าทะเล เกาะเต่า เมืองไทยของเราสวยขนาดไหน ตามมาเลยค่ะ

เกาะเต่า

เนื่องจากช่วงที่จะไป ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยวของเกาะเต่า ทำให้กังวลกันมากว่าจะเจอคลื่นลม กลัวเมาเรือ สารพัด
ทำให้เราจองที่พักแล้ว ก็ย้ายวันไป ย้ายวันมา กลับไปมาหลายรอบอยู่ แถมยังเลือกบ้านหลังที่จะพักแล้ว ก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่หลายรอบ
จนเกรงใจน้อง Reservation ที่จามจุรีมากๆ แต่น้องเค้าก็บริการเราดีมาก ช่วยเลือกว่าบ้านหลังไหนเหมาะกับเรา หลังไหนวิวดี สารพัด น้องน่ารักมากค่ะ

เกาะเต่า

การเดินทางของเราก็เริ่มจากขับรถออกจากกรุงเทพแต่เช้าตรู่ ไปลงเรือเร็วลมพระยารอบบ่ายโมง
เราซื้อตั๋วล่วงหน้าไปจากสำนักงานเรือเร็วลมพระยาที่ถนนข้าวสารค่ะ ส่วนรถเราจอดไว้ที่ท่าเรือ เสียค่าฝากรถคืนละ 50 บาท
พอขึ้นเรือ เด็กจิ๋วก็เจอเพื่อนใหม่เลยค่ะ สนุกเลยคราวนี้ ไปวิ่งเล่นกับเค้า แล้วไปเนียนไปนั่งรวมกับบ้านเค้า กินขนม กินกล้วยเค้าด้วย

เกาะเต่า

ตอนลงเรือมาเราเจอฝนตกหนักในทะเล คิดว่าทริปนี้คงไม่สนุกแล้ว แต่ปรากฎว่าพอมาถึงเกาะ ฟ้าก็ใส แดดร้อนมากเลยทีเดียว
ทางจามจุรีส่งรถมารับเราที่ท่าเรือ นั่งรถแป๊บเดียวก็มาถึงรีสอร์ท มีน้ำส้ม และผ้าเย็นเอาไว้ต้อนรับค่ะ

เกาะเต่า

เกาะเต่า

เช็คอินเรียบร้อย น้องเจ้าหน้าที่ก็เดินพามาส่งที่ห้อง
ทางเดินไปห้องก็ไกลพอควร แถมขึ้นๆลงๆอีกต่างหาก เพราะเหมือนว่ารีสอร์ทนี้อยู่บนโขดหิน
ทางเดินจะทำลัดเลาะไปตามพื้นที่ กว่าจะเดินมาถึงห้องก็ประมาณ 15 นาทีได้ พอมาถึงแล้ว
เราตั้งใจว่าจะอยู่กันแถวห้องพักนี้แหล่ะ คงไม่กลับออกไปล้อบบี้อีกแล้ว รูปนี้เป็นทางเดินช่วงนึงค่ะ

เกาะเต่า

มาถึงแล้วห้องพักของเรา ห้อง Deluxe Cottage เบอร์ 37
เป็นห้องที่น้อง Reservation แนะนำว่าวิวดี ซึ่งวิวก็งามจริงค่ะ
แต่ก่อนเข้าห้องต้องปีนบันไดกันเล็กน้อย

เกาะเต่า

ห้องนี้วิวดีจริงๆ แต่มีข้อเสียที่เจ้าหน้าที่บอกไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าจะพลุกพล่านหน่อย
เพราะตรงหน้าระเบียงจะเป็นทางเดินหลักระหว่างอ่าวจันทร์สมกับห้องอาหาร
จะมีพนักงานและแขกที่พักเดินไปมาทั้งวัน ซึ่งข้อนี้ไม่เป็นปัญหาสำหรับบ้านเรา บ้านเราชอบพลุกพล่านดีกว่าเงียบๆ

เกาะเต่า

เตียงผ้าใบ 2 ตัวที่ระเบียงใช้การได้ดีมาก เด็กจิ๋วมานั่งชมวิวบ่อยมาก ตั้งแต่ตื่นมาตอนเช้า ชมพระอาทิตย์ตกตอนเย็น แล้วก็นอนดูดาวตอนกลางคืน

เกาะเต่า

วิวจากระเบียงห้อง มองเห็นอ่าวจันทร์สมได้ดีพอควร แต่จะติดหลังคาบ้าน 35A (ทางซ้าย) และบ้าน 44 (ทางขวา)

เกาะเต่า

หลังคาบ้าน 44 ซึ่งเป็น Pool Villa ที่หรูสุดของจามจุรี เดี๋ยว คคห ล่างๆจะลงรูปข้างในห้องนี้ให้ดูอีกทีค่ะ

เกาะเต่า

ทีแรกตั้งใจว่าจะขอ upgrade เป็นห้อง 35A ซึ่งเป็นแบบ Sunset Cottage
ซึ่งต้องเพิ่มเงินอีกคืนละ 4,000 บาท จะได้ห้องกว้างขึ้น วิวสวยขึ้น ไม่มีหลังคาห้องอื่นมาบัง และใกล้ชิดอ่าวจันทร์สมมากๆ
แต่สิ่งสำคัญที่เราตัดสินใจไม่พักห้อง 35A เพราะไม่ชอบงาช้างในห้องอ่ะค่ะ แถมยังมีรูปปั้นแบบพวกของ antique
แนวพม่าๆ มาเรียงๆอีก คาดว่าจะนอนกันไม่ได้แน่ๆ ฉะนั้นจึงไม่ upgrade ไม่เสียเงินเพิ่มด้วย

เกาะเต่า

มองข้ามไปด้านโน้นของอ่าว เป็นห้องสุดฮิตอีกห้อง คือห้อง 32 อันนี้ต้องเดินไกลกว่าห้องเรามาก
คือต้องเดินอ้อมอ่าวจันทร์สมไปอีกฝั่งหนึ่ง แล้วทางขึ้นก็ต้องปีนนิดหน่อย อาจจะไม่เหมาะกับเด็กจิ๋ว

เกาะเต่า

เก็บของที่ห้องเรียบร้อย ก็พาเด็กจิ๋วไปเล่นทรายกันเลย แต่ค่อนข้างผิดหวังนิดหน่อย
เพราะทรายที่นี่เม็ดใหญ่เป้งมาก หยาบไปหน่อย เด็กจิ๋วบ่นใหญ่ว่ามันแข็ง ไม่นุ่ม

เกาะเต่า

เล่นทรายกันพักนึง ก็กลับห้องไปอาบน้ำแล้วไปนั่งชมพระอาทิตย์ตกกันที่ร้านอาหาร Starlight
เดินมาไม่ไกลจากห้องเรา

เกาะเต่า

ห้องอาหารนี้ชมพระอาทิตย์ตกสวยมาก วันนี้เรามาดูพระอาทิตย์ตกตรงจุดนี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะย้ายไปที่ตรงอ่าวจันทร์สมบ้าง

เกาะเต่า

ตอนแรกกะจะนั่งกินข้าวกันตรงนี้ แต่ลมแรงเกิน แรงมากๆ คาดว่าอาหารคงปลิวแน่ๆ เลยย้ายเข้ามานั่งในตัวอาคารดีกว่า
มองไปมองมาวันนี้มีแขกอยู่ประมาณ 5 โต๊ะเอง

เกาะเต่า

รออาหารค่อนข้างนานเลยทีเดียว เด็กจิ๋วหิวมาก บ่นใหญ่ว่าหิวๆ
บอกว่าถ้าข้าวหนูยังไม่มา จะกินก้อนหินพวกนี้ให้หมดเลย โชคดีข้าวมาซะก่อน เลยไม่ได้กินก้อนหิน

เกาะเต่า

ห้องอาหาร Starlight มองลงมาจากตัวอาคารด้านบน

เกาะเต่า

อาคารห้องอาหารที่นี่จะมี 3 ชั้น ตอนเดินเข้ามาจะเข้ามาชั้นบนสุดก่อน แล้วค่อยเดินลงบันได้มาชั้นล่าง
ถึงตอนนี้ก็ยังงงๆอยู่ว่าส่วนไหนเป็นชบา ส่วนไหนเป็น Starlight
ที่แน่ๆคือส่วน outdoor เป็น Starlight ในอาคารไม่แน่ใจค่ะ

เกาะเต่า

ตรงนี้เป็นบริเวณชั้น 2 เป็นที่สำหรับทานอาหารเช้า (เดาว่าเป็นส่วนของห้องอาหารชบา)

เกาะเต่า

ชั้นล่างสุด ห้องอาหาร Starlight

เกาะเต่า

อาหารที่นี่อร่อยทุกอย่าง เด็กจิ๋วกินเข้าไปหลายขนาน พอท้องอิ่มก็เริ่มง่วง หลับไปแต่หัววัน
รูปนี้เป็นระเบียงตรงทางเข้าห้องเรา

เกาะเต่า

ปะป๊าออกมาถ่ายรูปแถวอ่าวจันทร์สมต่อ ตั้งแต่มานี่ยังไม่มีเวลาถ่ายรูปซักเท่าไหร่
เวลาหมดไปเร็วมาก เพราะกว่าจะเดินทางมาถึงเกาะ นั่งรถมารีสอร์ท เดินมาห้องพัก
พาเด็กจิ๋วไปเล่นทราย รีบอาบน้ำกว่าจะเสร็จก็เกือบดูพระอาทิตย์ตกไม่ทัน

เกาะเต่า

ไม่ค่อยได้เห็นดาวเต็มท้องฟ้าแบบนี้มานานแล้ว

เกาะเต่า

ตรงบ้านที่เปิดไฟอยู่คือห้องเบอร์ 32 น่าอยู่ไม่ใช่น้อย

เกาะเต่า

กลับมาเจาะลึกตัวห้องพักของเราต่อ ส่วนนี้เป็นห้องนั่งเล่น จากระเบียงบ้านเปิดเข้ามาจะเป็นบริเวณนี้ก่อน
ไม่มีแอร์ มีตู้เย็น จาน แก้วน้ำ และเครื่องเสียง ห้องพักที่จามจุรีแต่ละห้องจะมี layout ที่แตกต่างกัน
เข้าใจว่าคนสร้างห้องพัก ตั้งใจสร้างโดยอิงพื้นที่เดิม บางที่เป็นก้อนหิน บางที่เป็นต้นไม้ ก็จะพยายามสร้างบ้านโดยไม่ทำลายธรรมชาติเดิมๆ

 เกาะเต่า

ถัดเข้ามาจะเป็นห้องนอน ซึ่งรู้สึกว่าแคบเกินไป เตียงวางเต็มห้อง มีทางเดินเหลือนิดเดียว

เกาะเต่า

ส่วนของห้องน้ำรู้สึกว่ากว้างเกินไป จากรูปนี้ ประตูห้องนอนอยู่ขวา
ซ้ายมือเป็นห้องอาบน้ำและห้องส้วม ส่วนบริเวณพื้นไม้สีแดงเป็นอ่างล้างหน้า

เกาะเต่า

ส่วนห้องอาบน้ำ น้ำที่นี่จะไหลเอื่อยหน่อย ทางรีสอร์ทแจ้งว่าต้องช่วยกันประหยัดน้ำ
หากฝนไม่ตกต่อเนื่องกัน 15 วัน บนเกาะจะไม่มีน้ำใช้ ต้องซื้อมาจากฝั่งโดยขนมาทางเรือ

เกาะเต่า

ส่วนของห้องส้วมก็รู้สึกว่ากว้างเกินไปเหมือนกัน มีโถชำระให้เลือกใช้ถึง 3 แบบ
สังเกตุว่าหลังคาบ้านจะเป็นวัสดุธรรมชาติอาจมีรูมีช่องบ้าง ซึ่งอันนี้วันที่สองเราโดนธรรมชาติทำร้าย
มีตุ๊กแกบุกเข้ามาในห้องส้วม ประจันหน้าจังๆกับแม่เลย รีบวิ่งกรี๊ดหนีออกมาแทบไม่ทัน ต้องตามเจ้าหน้าที่ของรีสอร์ทมาช่วยจับออกไป
แต่ออกไปได้ไม่นาน มันก็กลับเข้ามาอีก เพราะบริเวณห้องน้ำเป็นระบบเปิด พนักงานบอกว่าจะเจออยู่เรื่อยๆ บางทีก็เจอหนูเข้ามาด้วย TT

เกาะเต่า

เช้าวันที่สองตื่นกันมาตั้งแต่เช้ามืด เมื่อคืนนอนกันไม่ค่อยหลับเท่าไหร่
แถมเด็กจิ๋วยังละเมอร้องไห้ถีบปะป๊ากับคุณแม่ทั้งคืน คงฝันว่าเล่นน้ำทะเลอยู่มั้ง

เกาะเต่า

ชมวิวทะเลยามเช้าผ่านหน้าต่างห้องได้เลย

เกาะเต่า

เด็กจิ๋วตื่นแล้ว เราก็มาทานอาหารเช้ากันที่เดิม คือห้องอาหารชบา

เกาะเต่า

ส่วนของห้อง Starlight เก็บโต๊ะเรียบหมดแล้ว

เกาะเต่า

ตอนแรกเราต้องเดินเข้ามาที่ชั้นบนสุดของห้องอาหาร

เกาะเต่า

ลงมาชั้น 2 เราทานกันที่ชั้นนี้ แขกส่วนใหญ่จะเลือกนั่งที่บาร์ตรงนี้ เพราะสามารถกินอาหารเช้าไปด้วยชมวิวสวยๆไปด้วย

เกาะเต่า

อาหารเช้าที่นี่รสชาตอร่อย ถึงแม้ไม่ได้มีมากมายเหมือนโรงแรมใหญ่ๆ แต่ก็อร่อย

เกาะเต่า

เกาะเต่า

จากห้องอาหาร มองซ้ายจะเห็นวิวอ่าวจันทร์สม

เกาะเต่า

เกาะเต่า

 หลังอาหารเช้า เราเดินกลับห้องพัก ผ่านบ้าน 44 เจอพนักงานกำลังทำความสะอาดห้องอยู่
เลยขอเข้าไปสำรวจหน่อยค่ะ รูปนี้เป็นบริเวณหน้าห้อง 44

เกาะเต่า

บ้านใหญ่โตมาก บริเวณห้องนอนไม่ได้ถ่ายมานะคะ เพราะพนักงานไม่มีกุญแจ เลยถ่ายได้แค่บริเวณ pool

เกาะเต่า

มองเห็นอ่าวจันทร์สมชัดเจน

เกาะเต่า

อยากนอนบ้านหลังนี้

เกาะเต่า

บ้าน 44 จะมีพื้นที่ส่วนกลางร่วมกับบ้าน 26A 26B และ 26C เป็นศาลานั่งเล่นและทางเดินลงทะเลส่วนตัว

เกาะเต่า

เกาะเต่า

ศาลาริมทะเลส่วนตัวของบ้าน 44 และ 26

เกาะเต่า

วันนี้เรามีโปรแกรมนั่งรถเที่ยวรอบเกาะ
ให้น้องที่ front ติดต่อเช่ารถให้ เตรียมข้าวของเสร็จก็เดินไปขึ้นรถที่ล้อบบี้
รถที่มารับเป็นรถกระบะ 4×4 เพราะถนนหนทางบนเกาะเต่าบางช่วง ต้องเป็นรถ 4×4 ถึงจะไปได้ค่ะ
จุดแรกที่ไปแวะคือ อ่าวโตนด เป็นชายหาดด้านตะวันออกของเกาะซึ่งค่อนข้างเงียบมากๆ มีฝรั่งมาเล่นน้ำบ้างเล็กน้อย
น้ำทะเลสีสวยมาก แต่ทรายก็เม็ดใหญ่ๆ เหมือนแถวๆรีสอร์ทเราเลย

เกาะเต่า

เกาะเต่า

 เพิงนี้น่าจะเคยเป็นร้านขายของหรือเครื่องดื่มอะไรซักอย่าง แต่ตอนนี้ร้างอยู่
แม่กับเด็กจิ๋วเลยขออาศัยร่มเงาของร้านนี้หลบแดดอันแรงกล้าค่ะ ไม่งั้นมีหวังหน้ามืดแน่นอน ร้อนดีจริงๆ

เกาะเต่า

เราแม่ลูกนั่งเล่นกันอยู่ตรงนี้พักใหญ่ ปล่อยให้ปะป๊าไปเผชิญแดดถ่ายรูปให้สบายใจ

 เกาะเต่า

เกาะเต่า

นั่งลุ้นดูฝรั่งโดดน้ำอยู่นานมาก ตั้งท่าจะโดดเป็นสิบรอบอ่ะ แล้วก็ไม่โดดซักที

เกาะเต่า

ถึงแม้แดดจะแรงกล้าซักแค่ไหน แต่พอเข้าร่ม ลมก็พัดเย็นสบายดี

เกาะเต่า

เกาะเต่า

เกาะเต่า

ออกจากอ่าวเทียนออกมา จะเป็นทางขึ้นเขา พี่คนขับแวะร้านอาหารที่เป็นจุดชมวิวให้เราถ่ายรูปกัน

เกาะเต่า

เกาะเต่า

เกาะเต่า

จุดต่อมาที่แวะ เป็นอ่าวที่บ้านเราชอบกันมากที่สุด ให้เป็นอันดับ 1 ในเกาะเต่าเลย
ที่นี่คือ อ่าวลึก  เราตื่นเต้นกับสีของน้ำทะเลที่นี่มาก สีสวยมากจริงๆ
ไม่นึกว่าเกาะเต่าจะมีหาดมีน้ำทะเลที่สวยมากขนาดนี้ ประทับใจที่นี่มากมายค่ะ

เราแวะหาอะไรเย็นๆดื่มกันที่ร้านอาหารของอ่าวลึก 2 รีสอร์ท
เป็นร้านอาหารที่วิวดีเป็นเลิศจริงๆ เราสั่งน้ำปั่นไป 2-3 แก้ว แต่นั่งเค้านานมากๆ
นั่งมองวิวก็เพลินไปได้นานเลยค่ะ อยู่ในร่มไม่โดนแดด ลมเย็นนั่งสบายมากๆ ไม่อยากลุกออกไปเลย
นั่งกันนานจนพี่คนขับต้องมาตามให้ไปต่อได้แล้ว

ตอนนั่งเล่นที่ร้านเพิ่งมองไปเห็นว่าที่นี่เป็นรีสอร์ทด้วย บ้านพักก็อิงแอบโขดหิน เห็นวิวสวยๆแบบนี้เหมือนกัน คราวหน้าน่าลองมาพักที่นี่บ้าง

ระหว่างที่แม่กับเด็กจิ๋วนั่งเล่นกันที่ร้านอาหาร ปะป๊าก็มาเก็บภาพมุมสวยๆของอ่าวลึก

น่าสงสัยว่าทำไมเราไม่เคยคิดจะเที่ยวเกาะเต่าก่อนหน้านี้เลย จริงๆเป็นเพราะเราไม่ได้รับรู้มาก่อนว่าทะเลเกาะเต่าจะสวยขนาดนี้
ฝรั่งอยู่ไกลคนละซีกโลกยังดั้นด้นมาเที่ยวกันให้เต็มเกาะไปหมดเลย

ขนาดปะป๊าเองเคยมาเที่ยวเกาะเต่าแล้วรอบนึง ยังไม่รู้เลยว่าเกาะเต่ามีทะเลสีสวยอย่างงี้
เพราะคราวที่แล้วปะป๊ามัวแต่ดำน้ำรอบเกาะ ไม่ได้เที่ยวหาด เลยไม่เห็นมุมมองจาหาดออกไปทะเลแบบนี้เลย

ออกจากอ่าวลึก เราบอกให้พี่คนขับพาไปทานมื้อกลางวันกันที่ร้านอาหาร New Heaven
แม่เคยหาข้อมูลจากที่ไหนซักแห่งนานมาแล้วว่าร้านนี้วิวสวย
ร้านนี้อยู่บนเขา มองลงไปเห็นหาดเทียนออก สวยจริงๆด้วย
แต่ที่นั่ง outdoor ที่เห็นร้อนระอุไปหน่อยเราขอนั่งใต้หลังคาละกัน
เราไปเป็นโต๊ะแรก นั่งในร่ม อีกซักพักมีฝรั่งมาหลายโต๊ะ นั่งตากแดดกันหมดเลย
อาหารที่นี่อร่อยเลยทีเดียว ถูกปากบ้านเรามากๆ

อ่าวเทียนออกมองจากร้านอาหาร New Heaven

หลังอาหารกลางวัน เราไปต่อกันที่อ่าวโฉลกบ้านเก่า
ช่วงบ่ายน้ำเริ่มขึ้นแล้ว จุดนี้ก็แวะไม่นาน เพราะไม่มีที่นั่ง และไม่ค่อยมีจุดให้ถ่ายรูปมากนัก

จุดสุดท้ายที่มาแวะคือหาดทรายรี
ทีแรกพี่คนขับปล่อยเราลง แล้วบอกให้เดินเที่ยวเลาะๆชายหาดไป แล้วจะไปรับอีกจุดนึงของหาด
เอ่อ..พี่คะ น้ำขึ้นอ่ะค่ะ ไม่สามารถเดินไปได้ เพราะน้ำขึ้นมาเหลือหาดอยู่จิ๊ดเดียว
แถมหาดจิ๊ดๆนั่นยังมีฝรั่งนอนเรียงรายตลอดแนว ถ้าให้เดินเลาะหาดไป คงต้องข้ามๆหัวฝรั่งไปแน่
เราเลยรีบโทรเรียกพี่คนขับมารับจุดเดิม กลับรีสอร์ทดีกว่า

กลับมาถึงรีสอร์ท เด็กจิ๋วขอเล่นน้ำทะเล เล่นทราย เพราะวันนี้ที่ไปมาไม่ได้เล่นจริงๆจังๆเลย เนื่องจากแดดร้อนแรงมาก


เล่นทรายที่อ่าวจันทร์สมกันพักใหญ่ก็อาบน้ำ มานั่งกินขนมชมวิวกันที่ระเบียง

ส่วนปะป๊าแยกไปเก็บภาพพระอาทิตย์ตกดินที่หน้าหาดจันทร์สมคนเดียว

วันนี้เราไม่ได้ไปทานอาหารเย็นกันที่ห้องอาหาร แต่สั่งมาทานกันที่ห้องแทน เพราะเด็กจิ๋วเพลียและง่วงมาก หลับไปแต่วันเลย

ศาลานวดตัว

Elvis Beach Bar

เช้าวันสุดท้ายบนเกาะเต่า หลังอาหารเช้า เรามีโปรแกรมเดินไปเล่นน้ำเล่นทรายกันที่หาดทรายนวล
ข้อมูลที่ได้มาคือสามารถเดินไปได้จากที่พักเราสบายๆ เดี๋ยวไปดูกันว่าสบายจริงเปล่า

อ่าวจันทร์สมยามเช้า

จากจามจุรีวิลล่า เราจะเดินเท้าไปที่หาดทรายนวล
ก่อนถึงหาดทรายนวลจะต้องเดินผ่านอีกรีสอร์ทนึง คือ Bamboo Hut
ซึ่งเจ้าของก็เป็นเครือญาติกันกับเจ้าของจามจุรีวิลล่าที่เราพัก
ที่ Bamboo Hut นี่ไม่มีชายหาด แต่น้ำทะเลหน้ารีสอร์ทนี้สวยเวอร์ สวยมากจริงๆ

เรามานั่งพักเหนื่อยกันที่นี่ เจอเจ้าหน้าที่ของ Bamboo Hut เค้าชวนไปดูห้องที่เป็น Pool Villa ห้องริมสุดเบอร์ 18
เราเคยเห็นรีวิวห้องนี้มาแล้ว จำได้แม่นว่าสวยมากๆ เลยไม่ลังเลที่จะเข้าไปดู เดี๋ยวพักหายเหนื่อยแล้วไปกัน

ห้อง 18 ของ Bamboo Hut สวยน่าอยู่อย่างมาก

จุดที่เริ่มจะเดินไม่สบายคือจุดที่เริ่มจากออกจาก Bamboo Hut มาหาดทรายนวล
เพราะแดดที่ร้อนมากๆ ทำให้รู้สึกว่าไกลจัง เมื่อไหร่จะถึง แต่ยังไงก็หอบหิ้วกันจนมาถึงจนได้
ที่หาดทรายนวลมีฝรั่งอยู่เยอะ (ความจริงทุกหาดก็เจอฝรั่งทั้งนั้น) มีบ้านพักน่ารักๆ อยู่เยอะเหมือนกัน

ปะป๊าทิ้งเราแม่ลูกให้เล่นทรายกันใต้เงามะพร้าว แล้วตัวเองออกไปเดินตากแดดถ่ายรูปอีกแล้ว

หาดทรายนวลถึงแม้ชื่อไม่ดังและไม่สวยเท่าอ่าวลึก แต่ก็มีมุมถ่ายรูปงามๆหลายจุดทีเดียว

ขากลับเราเดินมาถึง Bamboo Hut ก็หมดแรงแล้ว
เจ้าหน้าที่บอกว่าสามารถโทรให้รถมารับจากจุดนี้ไปจามจุรีได้
เราก็โทรสิคะ ไม่รอช้า รอรถค่ะ รอรถ

เรากลับมาอาบน้ำกันที่ห้องน้ำกลางใกล้ๆล้อบบี้ แล้วรอรถมารับไปท่าเรือ
เราประทับใจกับทริปนี้มากๆ อาจจะเป็นเพราะเป็นทริปค่อนข้างกะทันหัน ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก่อน
แต่กลับได้มาเจอวิวสวยๆของเกาะเต่า และการบริการที่ดีของน้องๆที่จามจุรี ทำให้ประทับใจทริปนี้มากๆ
เด็กจิ๋วต้องบ้าย บายไปก่อนนะคะ เอาไว้เจอกันใหม่ทริปหน้านะคะ