10 วัน 4,000 โล ทริปขับรถพาลูกเที่ยวตามฝัน แคนาดา-อเมริกา ภาค Canadian Rockies

เมื่อตุลาคมปีที่แล้ว แม่ได้มีโอกาสพาเด็กจิ๋วและปะป๊าไปเที่ยวตามฝันของแม่ ที่ Canadian Rockies ค่ะ ยิ้ม
ทริปนี้เป็นทริปในฝันที่มีมานานมากๆ ทุกครั้งที่ได้เห็นรูป ได้อ่านรีวิว หัวใจจะเต้นแรง อยากไปอยู่ตรงนั้นจริงๆ
ติดที่ว่าค่าตั๋วเครื่องบินไป Canada ราคาโหดใช่เล่น สามหมื่นปลาย หรือไม่ก็สี่หมื่นกว่าตลอดๆ
พอเอาราคามาคูณ 3 คนแล้วเราไม่สู้ค่ะ เลยทำให้ยังไม่มีโอกาสได้ไปซักที
จนวันนึงเพื่อนแชร์มาว่ามีตั๋วโปร เราเข้าไปกดดูเล่นๆ เย้ย…เจอตั๋วไป Vancouver ในราคา 24,xxx บาท ประหลาดใจ
ปรึกษากับปะป๊าในเวลาอันรวดเร็ว แล้วจองเลยค่ะ อย่าช้า…เดี๋ยวตั๋วราคานี้หมดค่ะ
แค่จองตั๋วก็ตื่นเต้นมากแล้วค่ะ ในที่สุดเราก็จะได้ไปแล้ว ที่เที่ยวที่ใฝ่ฝันมานาน
และเนื่องจากว่าไหนๆไปถึงอุทยานแห่งชาติ Jasper กับ Banff แล้ว วกลงเข้าอเมริกาหน่อยก็จะถึงอุทยานแห่งชาติ Glacier แล้ว ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่อยากไป (อีกแล้ว)
เมื่อวกลงมาอเมริกาแล้ว การจะกลับเข้าไป Vancouver เพื่อบินกลับบ้าน ก็จะผ่านรัฐ Washington ที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติ Mount Rainier ที่เราพลาดไปเมื่อครั้งมาเที่ยวรัฐนี้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว
ทริปนี้เลยเป็นทริปรวมจุดหมายปลายทางในฝันของแม่ล้วนๆเลย
เริ่มจากบ้าน -> Vancouver -> Jasper -> Banff -> Glacier NP -> Palouse -> Mount Rainier -> Vancouver -> กลับมาบ้านอย่างประทับใจและมีความสุขมากค่ะ
รีวิวตอนแรก ขอแบ่งเป็นภาคแคนาดาก่อนนะคะ ตอนหน้าถึงจะพาเข้าอเมริกาค่ะ
พร้อมแล้วไปเที่ยว Canadian Rockies กันเลยค่ะ

Canadian Rockies

สำหรับรีวิวนี้เป็นรีวิวที่อยากเขียนมากๆค่ะ อยากแชร์ อยากอวดรูป อยากให้คนอื่นรู้ว่ามุมนี้ของ Canada สวยมากจริงๆ
ภูมิใจนำเสนอมาก ถ้าอวยมากไป ไม่ใช่ว่าเยอะ แต่อินมากจริงๆค่ะ ให้กลับไปอีกก็ไปนะคะ หลงรักจริงๆ

* 27 กันยายน 2558 *

เราบินด้วยสายการบิน Cathay Pacific ซึ่งนั่งสบายมากๆ ที่นั่งกว้าง (สำหรับคนขาสั้นๆ แบบบ้านเรา)
ถึงจุดหมายที่สนามบิน Vancouver ตอนใกล้สี่ทุ่มแล้ว กว่าจะรับรถ กว่าจะไปถึงที่พักก็ตี 1 พอดี
เราเลือกพักที่เมือง Merritt เป็นเมืองเล็กๆ ระหว่างทางไป Jasper
โรงแรม Quality Inn Merritt สะดวกสบายพอควร มีอาหารเช้าอร่อยๆ (วาฟเฟิลแบบให้เราทำเองอร่อยมากค่ะ)

Canadian Rockies Canadian Rockies

เห็นแดดจ้า ฟ้าใสไร้เมฆแบบนี้ แต่อากาศหนาวมากๆค่ะ ยิ่งมาวันแรกยังไม่ชินกับอากาศเย็น
อุณหภูมิเลขตัวเดียวเอ๊ง…เด็กหนาวปากสั่นเลยค่ะ

Canadian Rockies

เรารีบทานข้าวเช้า รีบเช็คเอาท์แล้วมุ่งหน้าไป Jasper ค่ะ
แต่ก่อนจะถึง Jasper เราขอแวะ Mount Robson กันก่อน
มาถึงอากาศปิด ฝนตก ช่างแตกต่างจากเมื่อเช้ามากจริงๆ
เริ่มเห็นธารน้ำกับต้นไม้เปลี่ยนสีแล้ว แวะถ่ายรูปกันหน่อยค่ะ

Canadian Rockies Canadian Rockies

ที่แรกที่แวะจริงจัง คือลงไปเดินดูน้ำตก Overlander ที่ Mount Robson Provincial Park
ระยะทางไม่ไกล เดินสบายๆค่ะ

Canadian Rockies Canadian Rockies

น้ำที่นี่ละลายลงมาจากยอดภูเขาหิมะทั้งนั้น สีสวยจริงๆค่ะ

Canadian Rockies Canadian Rockies

ออกจาก Mount Robson มาได้ไม่เท่าไหร่ เจอน้ำสวยๆกับต้นไม้เปลี่ยนสีข้างทาง
แวะถ่ายรูปตามระเบียบค่ะ ตรงไหนสวยเราไม่ปล่อยผ่านค่ะ

Canadian Rockies Canadian Rockies Canadian Rockies

ช่วงที่เราไปเป็นต้นเดือนตุลาคม ต้นไม้แถบนี้จะพากันเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองสดใสตลอดทางค่ะ

Canadian Rockies

มาถึง Jasper ก็เย็นมากๆแล้ว แวะช้อปอาหารก่อนเข้าที่พักค่ะ
ร้านนี้มีรถเข็นขนาดพอดีสำหรับเด็กด้วย เด็กจิ๋วชอบมากๆค่ะ ไม่ต้องมาแย่งแม่เข็นรถคันใหญ่แล้ว

Canadian Rockies

เรานอนที่ Jasper กันสองคืน ที่พักเราอยู่ริมทะเลสาบ Patricia ชื่อว่า Patricia Lake Bangalows
ขับเลยมาจากเมือง Jasper ราวๆ 5 นาทีค่ะ ทีแรกดูในเวปมาก็ชอบนะคะ แต่พอมาเห็นของจริงหลงรักเลย
เป็นที่พักที่น่ารักมากๆ มีต้นไม้เปลี่ยนสีเหลืองอร่ามอยู่หน้าบ้านด้วย ถูกใจที่สุดค่ะ

Canadian Rockies Canadian Rockies Canadian Rockies Canadian Rockies Canadian Rockies

ในห้องนอนใหม่ สะอาดมากๆ เตียงใหญ่นอนสบาย ห้องน้ำกว้างขวางและสะอาดค่ะ

พระอาทิตย์ใกล้ตกแล้ว เรารีบไปดูพระอาทิตย์ตกริมเลคกันดีกว่าค่ะ
เดินมานิดเดียวก็ถึงละค่ะ วิวงามๆแบบนี้ อยู่หน้าบ้านพักเราเอง…ฟินมากๆค่ะ

Canadian Rockies Canadian Rockies Canadian Rockies Canadian Rockies

เด็กนั่งริมน้ำแป๊บเดียวก็บ่นว่าหนาวมาก ขอมาเล่นออกกำลังกายให้ร่างกายอบอุ่นดีกว่าค่ะ
เครื่องเล่นเด็กอันนี้ก็อยู่แถวๆหน้าบ้านพักเราเลยค่ะ

Canadian Rockies Canadian Rockies

* 28 กันยายน 2558 *

เช้าวันแรกที่ Jasper เรามีแพลนไปล่องเรือที่ Maligne Lake เพื่อไปดู Spirit Island กัน
ตื่นกันตั้งแต่หกโมงเช้า ยังมือตึ๊ดตื๋อ เพราะเรากะจะให้ไปทันแสงเช้าที่ Maligne Lake
ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักเราชั่วโมงกว่าๆค่ะ

Canadian Rockies

ขับผ่าน Lake Medicine ก็เริ่มตื่นเต้นแล้ว สวยๆ
เดี๋ยวเรามาแวะที่นี่ขากลับจาก Maligne Lake นะคะ

Canadian Rockies Canadian Rockies Canadian Rockies

กวางมูสตัวแรกที่เราเจอ ตื่นเต้นกันมากๆ จอดรถดูกันอยู่นานค่ะ (ซึ่งตอนหลังจะเห็นเรื่อยๆ จนเริ่มชินค่ะ)

Canadian Rockies

มาถึงแล้วค่ะ Maligne Lake วิวงามมากๆ สมกับที่พยายามมาให้ทันแสงเช้าค่ะ

Canadian Rockies Canadian Rockies Canadian Rockies

แอบมีใจเสียเล็กน้อยค่ะ เพราะทิศที่เราจะมุ่งไปเพื่อไปดู Spirit Island นี่เมฆเต็มฟ้าเลยค่ะ
หวังว่าพอถึงเวลาเรือออก เมฆจะถูกลมพัดหายไปนะคะ

Canadian Rockies Canadian Rockies Canadian Rockies Canadian Rockies Canadian Rockies

เรามาถึงตรงนี้กันราวๆ เจ็ดโมงกว่า แต่รอบเรือของเราเป็นรอบ 10 โมง มีเวลาเอ้อระเหยชมวิวกันนานเลยค่ะ

Canadian Rockies Canadian Rockies Canadian Rockies Canadian Rockies

ซักพักก็มีรถบัสขนนักท่องเที่ยวมาหนึ่งคันใหญ่ พอนักท่องเที่ยวกลุ่มนั้นมาถึงก็พากันลงเรือไปเลย
อันนี้งงเล็กน้อยเพราะเราว่าเราจองเรือรอบแรกนี่นา เราอยากได้เช้ากว่า 10 โมง แต่ในเวปไม่มี
เลยคิดว่าเรือรอบเช้าสำหรับคณะทัวร์แน่เลย จองมาเอง รอบแรกคือ 10 โมงค่ะ
การล่องเรือที่ Maligne Lake จะเปิดให้บริการช่วงปลายๆพฤษภา ถึงต้นตุลานะคะ
ใครจะมาต้องลองเช็คให้ดี เพราะช่วงหนาวๆกว่านี้ทะเลสาบเป็นน้ำแข็งหมดค่ะ
จองเรือล่วงหน้ามาจากเวปนี้ค่ะ จะมีรอบ และจำนวนที่นั่งที่เหลือของแต่ละรอบแสดงให้ดู
http://www.brewster.ca/activities-in-the-rockies/brewster-attractions/maligne-lake-cruise/

Canadian Rockies

อากาศหนาวมากๆ เด็กใส่เสื้อไม่รู้กี่ชั้น แถมยังมีผ้าห่มห่อตัวด้วย ขนาดนี้ก็ยังบ่นว่าหนาวตลอด

Canadian Rockies

เราพกอาหารเช้ามาหม่ำกันริมเลคด้วยค่ะ องุ่นแดงอร่อยและหวานมากๆ กล่องโตๆ สามคนหม่ำแป๊บเดียวหมดค่ะ

Canadian Rockies

ในที่สุดเวลาเรือเราออกก็มาถึงแล้วค่ะ อากาศยังคงอึมครึม เมฆเยอะเต็มฟ้า
เสียใจนิดนึงค่ะ เพราะคิดว่าที่ Spirit Island คงไม่แจ่มเท่าที่หวังไว้

Canadian Rockies Canadian Rockies Canadian Rockies

ล่องเรือไปได้ซักพัก ก็เริ่มเห็นเกาะที่มีต้นสนขึ้นมา ผ่านไปหลายเกาะก็ยังไม่ใช่
เพิ่งรู้ว่ามันมีเกาะหน้าตาแบบนี้หลายเกาะเลย
ในที่สุดก็มาถึงแล้วค่ะ Spirit Island เมฆยังคงเต็มท้องฟ้า อากาศอึมครึม หนาวเย็นมากจริงๆ
แต่ถึงแม้ฟ้าจะไม่ใสกิ๊ก ที่นี่ก็ยังสวยสมกับที่เป็นหนึ่งในไฮไลต์ของ Canadian Rockies ค่ะ

Canadian Rockies Canadian Rockies

เรือจะไปจอดให้เราลงที่ฝั่งใกล้ๆกับ Spirit Island เค้าจะมีทางเดินไม้เอาไว้ให้เดินชมวิว
คุณไกด์พาเรามาปล่อยตรงนี้ราวๆครึ่งชั่วโมง ถ่ายรูปกันหนำใจแล้วก็เรียกกลับขึ้นเรือค่ะ

Canadian Rockies Canadian Rockies Canadian Rockies Canadian Rockies Canadian Rockies

กลับมาถึงฝั่งใกล้ๆเที่ยง หิวโซกันทุกคน ทีแรกตั้งใจจะกินกลางวันกันที่ท่าเรือ Maligne Lake
แต่ว่าดูๆอาหารแล้ว ไม่ถูกปากแน่นอน เลยหิ้วท้องรอไปหาอะไรกินในเมือง Jasper ดีกว่าค่ะ
ระหว่างทาง มีจุดจอดถ่ายรูปอีกหลายจุด รวมทั้งที่ Medicine Lake ด้วยค่ะ

Canadian Rockies Canadian Rockies Canadian Rockies Canadian Rockies Canadian Rockies

ขากลับเข้า Jasper Town ไหงฟ้าถึงได้ใสซะขนาดนี้คะ แล้วเมื่อกี้ที่ Maligne Lake คืออะไร

Canadian Rockies Canadian Rockies

เราแวะกิน Pizza Hut กันที่ Jasper Town แล้วเดินเล่นกันอีกแป๊บ
Jasper Town เป็นเมืองเล็กๆ น่ารัก แถมตอนที่เราไปใบไม้กำลังเปลี่ยนสี เพิ่มสเน่ห์ของที่นี่เข้าไปอีก

ช่วงบ่ายเราไปเที่ยวต่อกันที่ Maligne Canyon
ที่นี่จะมีทางเดินวนรอบ ประมาณว่าเราเดินอยู่บนภูเขา
แล้วด้านล่างมีธารน้ำสีฟ้าที่ไหลแรงมากๆ ลัดเลาะตามโตรกหินด้านล่างตลอดแนวที่เราเดินเลยค่ะ
มองลงไปแต่ละจุดก็แอบหวาดเสียวเหมือนกันค่ะ เพราะน้ำแรงจริงๆ

ความจริงแพลนของวันนี้เราจะจบแค่ที่ Maligne Canyon
แต่เนื่องจากเวลายังมีเหลือพอสมควร เราเลยไปต่อกันที่ Athabasca Fall
ระหว่างทางวิวสวยมากๆอีกแล้วค่ะ แถมยังมีกวางมูสเดินมาให้เห็นเป็นระยะๆ ด้วย

Athabasca Fall เป็นน้ำตกที่เกิดจากแม่น้ำ Athabasca ตกลงตรงแนวหินที่ทรุดตัวลง
น้ำสีฟ้าสวยมากๆ และน้ำแรงมากๆด้วย

ตรงนี้ในอดีตเป็นที่น้ำไหลผ่าน สร้างลวดลายบนหินเป็นริ้วๆแบบนี้ค่ะ

น้ำตก Athabasca ตกลงมาแล้วมาไหลออกตรงนี้ วิวงามมากๆ
ทีแรกไม่เห็นตรงนี้ค่ะ เกือบเดินกลับขึ้นรถแล้ว เห็นมีคนเดินออกมา เลยเดินสวนเข้าไป
โอ้โห…ถ้าไม่เข้ามาตรงนี้เสียดายแย่เลยค่ะ น้ำสีฟ้าๆเขียวๆกับแนวต้นสน มันใช่เลยค่ะ

จาก Athabasca Fall เราขับรถกลับมาที่พัก เห็นมีป้าย Pyramid Lake ต่อจากที่พักเราไปไม่ไกล ก็เลยขับไปดูหน่อย
ตรง Pyramid Lake ก็มีที่พัก มีคนอยู่เยอะพอควรค่ะ แต่เราชอบที่พักเรามากกว่า

กลับมาทันแสงสุดท้ายที่หน้าบ้านพักเราที่ Patricia Lake วันนี้แสงสวยเลย

ฟ้าใสสุดๆ ทไวไลท์งามๆ เห็นฟ้าใสแบบนี้ พยากรณ์บอกว่าพรุ่งนี้จะฝนตก เดี๋ยวรอดูกันค่ะ

* 29 กันยายน 2558 *

เช้าวันนี้ฝนตกจริงๆตามพยากรณ์ หนาวมากๆ ด้วยค่ะ
เราเหลือน้ำตกอีกที่ที่ต้องเก็บคือ Sunwapta Fall ก็ไปทั้งๆที่ฝนปรอยๆแบบนี้ค่ะ
Sunwapta Fall ก็จะเหมือนๆกับ Athabasca Fall ที่ไปมาเมื่อวาน
คือเป็นแม่น้ำ ที่อยู่ดีๆพื้นดินก็ยุบตัว น้ำก็ตกลงมากลายเป็นน้ำตก
เราชอบที่ Athabasca มากกว่า
อาจจะเป็นเพราะว่าวันนี้ฝนตก อากาศไม่ดี ขมุกขมัวมากๆ ได้มาแค่รูปเดียวค่ะ

วันนี้เราจะลาอุทยานแห่งชาติ Jasper เข้าสู่เขตอุทยานแห่งชาติ Banff กันแล้ว
(Banff อ่านว่าแบ้มฟ์ นะคะ น่าแปลกที่ไม่ใช่ แบ้นฟ์ หรือ แบ้ฟ ไม่รู้ว่าทำไมถึง แบ้มฟ์ได้ค่ะ)
ระหว่างทาง จะผ่าน Glacier Skywalk และ Columbia Icefield ซึ่งเราชั่งใจกันอยู่ว่าจะแวะดีมั้ย
ในที่สุดก็ไม่ได้แวะทั้งสองที่ เนื่องจากเวลาที่ค่อนข้างจำกัด
และค่าบริการที่ค่อนข้างจะแพง (อย่างหลังนี่สำคัญมากๆ ค่ะ)
เราเลยได้แค่จอดรถส่องๆดูคนเข้านั่งรถขึ้นไปเที่ยว Icefield กัน
พูดถึงค่าเข้าอุทยานแห่งชาติกันบ้างนะคะ ของเราซื้อ Pass แบบ Family ราคาวันละ CAD 19.6
เข้าได้ทั้ง Jasper Banff Yoho และ Kootenay ค่ะ เราอยู่ที่นี่ 4 วันก็ซื้อทีเดียว 19.6 คูณ 4 ค่ะ
เจ้าหน้าที่จะให้ใบยาวๆเหมือนใบเสร็จ เขียนวันที่สุดท้ายที่เราอยู่ที่นี่แล้วให้เราเอาสก๊อตเทปแปะไว้ที่หน้ารถค่ะ

เราแวะหม่ำมื้อกลางวันกันข้างทาง ไม่รู้ว่าจุดพักรถตรงนี้เรียกว่าอะไร
แต่อาหารอร่อย และวิวงามมากๆ
เรานั่งมองถนนที่สองข้างทางมีต้นไม้เปลี่ยนสี นานๆมีรถผ่านมาคันกันอย่างเพลิดเพลิน
กินวิวกันอิ่มกว่าอาหารอีกค่ะ

ออกมาจากจุดพักรถไม่นานเจอวิวงามอีกแล้วค่ะ ตรงนี้ไม่ได้อยู่ในแผน เป็นข้างทางที่สวยมากทีเดียว
คนจอดรถถ่ายรูปกันเยอะเลย เราก็แวะตรงนี้กันนานพอควร ภูเขาสวยแปลกตา น้ำก็สีสวยดีค่ะ
ตอนกลับมาแล้วถึงมาค้น Google ดูว่าที่นี่ชื่อ Waterfowl Lake ค่ะ

แวะรายทางมาเรื่อย ในที่สุดก็มาถึงจุดหมายที่ตั้งใจ Peyto Lake นั่นเองค่ะ
Peyto Lake เป็นทะเลสาบสีฟ้าเขียวที่สวยมากๆ อยู่ในเขต Banff National Park
มองจากจุดชมวิวจะเห็นเป็นรูปหมาป่าค่ะ
ตอนที่เราเดินมาถึง มองลงไปเห็น Peyto Lake มันตื้นตันมากค่ะ สีมันสวยได้ใจจริงๆ
คือเราดูรูปมาเยอะ อยากมาเห็นมากๆ แล้วมันก็สวยสมใจจริงๆ

เราอยู่ตรงนี้กันนานมาก เดี๋ยวฝนตกปรอยๆ เดี๋ยวแดดออก อากาศเปลี่ยนเร็วมากๆ
แต่เราไม่ถอยค่ะ ขอนั่งมองวิว ชื่นชมความงามจนพอใจค่อยกลับค่ะ

จาก Peyto Lake เรามาต่อที่ Lake Louise ค่ะ ที่ที่เป็น Icon ของ Banff ก็ว่าได้
น้ำในทะเลสาบก็สีสวยสมคำร่ำลือ อากาศไม่หนาวมาก อาจจะเป็นเพราะบ่ายๆแดดยังแรงอยู่
ปะป๊ากับเด็กจิ๋วอยากพายเรือในทะเลสาบ แม่ก็เลยต้องยอมเสียงส่วนใหญ่ค่ะ
พายแรกๆก็สบายๆ อากาศกำลังดี พายไปพายมา พระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า
อากาศก็หนาวมากขึ้นเรื่อยๆ จนไม่ไหว ต้องรีบจ้ำกลับฝั่งกันค่ะ

ที่พักของเราคืนนี้ชื่อว่า Castle Mountain Chalet เป็นบ้านที่มีครัวแบบเต็มรูปแบบ
แต่เราว่ามันไกล Lake Louise ไปหน่อย
ตอนจองเราเลือกที่นี่เพราะเห็นว่าอยู่ระหว่างทาง Lake Louise กับเมือง Banff
แต่ไปๆมาๆ เราเที่ยวที่ Lake Louise และรอบๆกันเป็นหลัก เลยขับรถกันสนุกไปเลย
คิดว่าถ้าจองที่พักที่ Lake Louise จะสะดวกกว่านี้มากๆค่ะ

* 30 กันยายน 2558 *

วันนี้เราตื่นมาดูแสงเช้ากันที่ Moraine Lake ค่ะ
Moraine Lake เป็นอีกทะเลสาบใน Banff ที่ไม่ควรพลาด
ถนนเข้า Moraine Lake จะปิดช่วงหนาวนะคะ คือราวๆ สัปดาห์ที่สองของตุลาไปจนกลางพฤษภาเลยค่ะ
เราไปถึงตั้งแต่ยังไม่สว่าง ปรากฏว่าจุดที่จะถ่ายรูปยอดเขาซ้อนๆกัน มันต้องปีนเขาขึ้นไปลำบากพอควร
ปะป๊าเลยเป็นตัวแทนปีนขึ้นไปเก็บรูป น้องพริมก็หนาวมาก ขอคดอยู่ในรถเข็น
ส่วนแม่อยากเห็นชัดๆ เลยพยายามเดินไปตรงตีนๆเขา ก็สงสัยอยู่ว่าทำไมไม่มีใครไป
มืดก็มืด ปรากฏว่าตรงที่ต้องเดินข้ามไปเป็นต้นไม้ที่ลอยอยู่บนน้ำ แล้วเราไม่รู้เลย มองไม่ออกว่ามันลอยน้ำอยู่
พอเหยียบไปเท่านั้นแหละ จมไปเท่าเข่าเลย น้ำในทะเลสาบน่าจะติดลบ มันเย็นกว่าน้ำในตู้เย็นอีกค่ะ
นี่ขนาดแค่ขา เราขึ้นมานี่แบบจะตายค่ะ มันเย็นมาก ปวดเท้าไปหมด เข้าใจคนที่หนาวจนแข็งตายเลย คงจะทรมานมากๆ
หลังจากเรา ก็มีชายชาวเอเชียอีกสองคนที่ประสบชะตากรรมเดียวกัน เราเห็นแล้ว แต่บอกไม่ทัน เพราะเค้าวิ่งลงไปเลย
แต่เราช่วยสาวจีน 5-6 คนสำเร็จ รู้สึกได้บุญมากค่ะ 555
รูปที่นี่มีมุมเดียว ต่าง prop ข้างหน้า ต่างแสง ปะป๊าไม่ให้ลบออก บอกว่าแต่ละรูปให้อารมณ์ไม่เหมือนกันค่ะ
เชิญรับชมค่ะ

ลงมาจาก Moraine Lake นี่ต้องขับรถกลับบ้านพักก่อนเลยค่ะ
ความจริงๆ เราจะเที่ยว Lake Louise กันต่ออีก แล้ว Lake Louise นี่มันก็ติดๆกันกับ Moraine Lake
แต่เราไม่ไหวค่ะ ขอกลับบ้านไปเปลี่ยนกางเกง เปลี่ยนถุงเท้า เอารองเท้าไปตากก่อน
เพราะมันหนาวแข็งมาก จนทนไม่ไหวเลย ขับไปมาเสียเวลาเกือบชั่วโมงก็ต้องยอมค่ะ
อันนี้วิวข้างทาง ไม่ว่าจะเลคไหน ธารน้ำไหน โนเนมๆ ก็สวยไปหมดค่ะ

เรากลับมา Lake Louise กันตอนกลางวัน เพราะอยากได้แสงที่แตกต่าง
เดี๋ยวตอนเย็นก็จะมาอีก เพราะปะป๊าอยากได้แสงเย็นด้วย (รู้งี้จองที่พักที่นี่ดีกว่าจริงๆ)

ถ้าได้พักโรงแรมนี้คงจะดีมากๆ ที่นี่คือ The Fairmont Chateau Lake Louise
ซึ่งราคาสูงมากๆ แต่อยู่หน้า Lake Louise เป๊ะๆเลย

เห็นแดดแรงๆแบบนี้ หนาวอยู่มากค่ะ
เด็กจิ๋วก็เดินบ้าง นั่งรถบ้าง หลับบ้าง ตื่นบ้าง ถ้าไม่มีรถเข็นคันนี้คงแย่ค่ะ

รอบๆ ทะเลสาบมีกระรอก มีนกสวยๆเยอะเลยค่ะ
มีนกแบบหางสีฟ้าสวยมากๆ แต่ถ่ายไม่ทันค่ะ เอาตัวสีน้ำตาลไปแทนก่อนนะคะ

เดินวนรอบกันไประยะหนึ่ง ก็ต้องไปต่ออีกที่แล้วค่ะ

ช่วงบ่ายเราขับรถไปอุทยานแห่งชาติ Yoho กัน
Yoho ก็อยู่ติดๆกันกับ Banff ขับรถไปไม่เท่าไหร่ค่ะ

Takakkaw Falls อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Yoho เป็นน้ำตกสูงที่ละลายมาจาก Glacier บนภูเขา
เราชอบที่นี่กันมากๆ แต่ไม่ใช่ชอบน้ำตก เรากลับชอบลำธารของน้ำตกรอบๆบริเวณมากกว่า

ริมลำธารมีโต๊ะให้นั่งปิคนิคด้วย มีคนมานั่งปิคนิคกันเยอะเลย เราก็เอาหมูแผ่นหมูฝอยมาปิคนิคตรงนี้เหมือนกันค่ะ

ที่ต่อมาใน Yoho ที่มาแวะคือ Natural Bridge
อันนี้เราว่ามันคล้ายๆ Athabasca Fall กับ Sunwapta Fall ใน Jasper เลย
แต่อันนี้มันจะมีหินที่เหมือนเป็นสะพานอยู่ด้วย เลยได้ชื่อว่า Natural Bridge ค่ะ

Emerald Lake เป็นที่สุดท้ายที่แวะใน Yoho National Park ค่ะ
ที่นี่เหมือนจะธรรมดา ไม่หวือหวา แต่ก็สวยมากเหมือนกันค่ะ
มีให้เช่าเรือพายด้วย เด็กทำท่าจะขอพายอีกแล้ว แต่ฝันไปเถอะ แม่ไม่ยอมแล้วค่ะ
พายที่ Lake Louise ยังปวดแขนไม่หาย แถมเวลาก็ไม่ค่อยมีอีกด้วย
แวะที่นี่แป๊บนึงก็กลับไป Lake Louise กันค่ะ

กลับมาที่ Lake Louise ปรากฏว่าพระอาทิตย์ยังสูงอยู่ ยังพอมีเวลาก่อนแสงเย็น
เราเลยแวะทานข้าวกันก่อน ร้านนี้อยู่ตรง Lake Louise Town ค่ะ ชื่อร้านอะไรจำไม่ได้
แต่จำได้ว่าเฟรนช์ฟรายอร่อยมากค่ะ

อิ่มแล้วมานั่งรอแสงเย็นกันที่ริม Lake Louise ค่ะ ยิ่งเย็นอากาศยิ่งหนาวค่ะ
ได้มาประมาณนี้ ปะป๊ายังไม่พึงพอใจ ขอมาใหม่เช้าตรู่พรุ่งนี้ อยากรู้ว่าพระอาทิตย์ขึ้นจะสวยกว่าตกมั้ย
ตกลงว่าเรามา Lake Louise กันสี่รอบเลยค่ะ

* 1 ตุลาคม 2558 *

ช่วงที่เราไป พระอาทิตย์ขึ้นราวๆ 7 โมงเช้า ถ้าพักแถวนี้ ตื่นใกล้ๆ 7 โมงก็คงไม่ทรมานเท่าไหร่นัก
แต่เราดันพักซะไกล ต้องตื่นตี 5 ครึ่ง เก็บกระเป๋าเช็คเอาท์ แล้วขับรถมา
(ยังคงบ่นเรื่องเลือกที่พักผิดตลอดเวลา มันพลาดจริงๆค่ะ)
บรรยากาศตอนเช้าที่นี่สงบมากๆ น้ำนิ่งใสสุดๆ แล้วก็หนาวสุดๆ

เราอำลา Lake Louise ไปช่วงสายๆ มุ่งหน้าเข้าอเมริกากันค่ะ
เด็กจิ๋วต้องบ้าย บาย ไปก่อนนะคะ ตอนหน้าจะพาไปท่องอเมริกากันค่ะ
Glacier National Park ไป Palouse ต่อด้วย Mount Rainier สวยทุกที่เลย

Canadian Rockies